Wednesday, March 19, 2008

เทคนิคการดื่ม Johnnie Walker ทั้ง5 แบบ ขั้นเทพ


ดื่มอย่างไรไม่ให้เสียของพร้อมสัมผัสกับรสชาติที่แอบซ่อน (ลอกเค้ามา) รู้จักค าว่า ' เสียของ ' กันบ้างมั้ย ? คนไทยเราน่ะ ชอบท าให้เสียของอยู่เรื่อย โดยเฉพาะนิสัย ' การดื่มแบบผสมมิกเซอร์ ' ทั้งหลาย นั่นแหละคือการท าให้วิสกี้ชั้นดีที่บางทีไม่ควรผสมใด ๆ ต้องเสียของ วันนี้จะหยิบเอาเรื่องวิสกี้ตระกูล จอห์นนี่ วอล์กเกอร์ มาพูดกันซะหน่อยเพราะว่าตระกูลนี้มีหลาย ' เลเบิ้ล ' เหลือเกิน ซึ่งมีวิธีการดื่มเฉพาะซะด้วย
………………………………………………………………..

เริ่มจาก ' เรด เลเบิ้ล ' (Red Label) กันก่อนเลยดีกว่า จอห์นนี่ วอล์กเกอร์ เรด เลเบิ้ล น่าจะดูถูกใจคนไทยที่สุด เพราะน้องเล็กสุดขวดนี้ มี วัตถุประสงค์เพื่อการดื่มตลอดค่ าคืน พูดง่ายๆ ก็คือกินได้นานๆ สนุกสนานกันทั้งคืนนั่นแหละ แถมวิธีการกินที่ถูกต้องนั้น ก็ต้องผสมกับ ' มิกเซอร์ ' ทั้งหลาย อันเป็นวิธีการดื่มที่นิยมในหมู่คนไทยอยู่แล้วซะอีก ตอนนี้ จอห์นนี่ วอล์กเกอร์ เรด เลเบิ้ล ก็เลยขายดีที่สุดไปโดยปริยาย ง่ายๆ จะใส่น้ าแข็ง ผสมโคล่า ชามะนาว หรือโซดาก็ได้ทั้งนั้น สุดแล้วแต่ว่าจะชอบรสชาติแบบไหนหลังผสมมิกเซอร์แล้วเท่านั้นเอง แต่นักดื่มมืออาชีพมักนิยมผสมน้ าก่อนแล้วจึงผสมโซดาตามลงไป ในอัตราส่วน2:1หรือที่เรียกกันว่า " โซดาลอย " นั่นเอง... ผสมเสร็จก็ เอ็นจอย ดริ๊งกิ้ง กันได้ทั้งคืน ( แต่อย่าขับรถหลังดื่มนะ )

โตขึ้นมาหน่อย กับความเคร่งขรึมแบบ จอห์นนี่ วอล์กเกอร์ แบล็ค เลเบิ้ล วิสกี้ชั้นดีจากการหมักบ่มเพื่อให้ได้รสชาติที่คลาสสิกที่สุดนานถึง 12 ปี วิธีการดื่มที่ถูกต้องนั้นก็คลาสสิกไม่แพ้รสชาติของตัววิสกี้ ง่ายๆ เท่ๆ ดูดีด้วยสไตล์ที่เรียกกันว่า ' ออน เดอะ ร็อก ' นั่นเอง หรือถ้าอยากย๊ากอยากจะผสมมิกเซอร์เหลือเกิน ก็ต้องใส่น้ าแข็งเข้าไปเยอะๆ วิสกี้ครึ่งแก้ว และโซดาอีกครึ่งแก้ว แค่นี้แหละ ก็จะได้สัมผัสรสชาติที่แท้จริงของ จอห์นนี่ วอล์กเกอร์ แบล็ค เลเบิ้ล
…………………………………………………………………………

มาถึงวิสกี้ตระกูล จอห์นนี่ วอล์กเกอร์ ที่ไม่ค่อยจะเห็นบ่อยนักบ้างดีกว่า เริ่มจาก จอห์นนี่ วอล์กเกอร์ โกลด์ เลเบิ้ล อายุ 18 ปีกันก่อน แค่น า จอห์นนี่ วอล์กเกอร์ โกลด์ เลเบิ้ล ไปใส่ในช่องแช่แข็งสัก 24 ชั่วโมง ถ้าที่ในช่องแช่แข็งยังเหลือก็น าแก้วทรงสูงเปล่าๆ แช่ไว้ด้วย พอได้เวลา ก้รินใส่แก้วที่แช่ไว ้ข้างกันๆ นั่นแหละ แล้วดื่มเข้าไปเลย ทันทีที่วิสกี้เย็นจัดปะทะกับความอุ่นในปาก กลิ่นหอมหวนนุ่มลิ้นจะอบอวล แหม...ยิ่งถ้ามีช็อกโกแล็ตดีๆ ไว้กินเข้าคู่ล่ะก็ จะเป็นความสุขที่ลืมไม่ลงเลย เชียว
………………………………………………………………

ส่วน จอห์นนี่ วอล์กเกอร์ กรีน เลเบิ้ล ที่มีจ าหน่ายแบบจ ากัดประเทศนั้น หาน้ าแข็งก้อนใหญ่ๆ สักก้อน ใส่ในแก้วปากกว้างเพียงแค่ก้อนเดียว ไม่ต้องกลัวว่าน้ าแข็งก้อนนั้นจะเหงา เพราะเราจะเฝ้ามองอย่าทะนุถนอม จากนั้นริน จอห์นนี่ วอล์กเกอร์ กรีน เลเบิ้ล ลงไปไม่ต้องท่วมน้ าแข็ง แกว่งแก้วเล็กน้อย ให้อุณหภูมิของวิสกี้ชะอุณหภูมิของน้ าแข็งก้อนโต ดมกลิ่นวิสกี้ที่ระเหยขึ้นมาเล็กน้อย ก่อนลิ้มรสวิสกี้ที่อุณหภูมิพอเหมาะพอดี งานนี้จะได้ รสชาติ กลิ่น และแสงที่วิสกี้ตกกระทบกับก้อนน้ าแข็งชวนมอง ( อันนี้เคยเสียของมาครั้งหนึ่งแล้ว )
……………………………………………………………….

ปิดท้ายกันที่วิสกี้ชั้นสูง จอห์นนี่ วอล์กเกอร์ บลู เลเบิ้ล อายุ 25 ปี ที่หมักบ่มจากมอลต์คุณภาพสูง ตามวิธีการคลาสสิกแบบศตวรรษที่ 19 วิธีการดื่มวิสกี้ชั้นสูงนี้ก็คลาสสิกมาก เตรียมแก้วบรั่นดีสวยๆ ไว้สัก 2 ใบ แก้วนึงรินวิสกี้รอไว้ ส่วนอีกแก้วนึงรินน้ าแร่เย็นๆ ไว้เช่นกัน ดื่มน้ าแร่เย็นๆ เพื่อปรับอุณหภูมิในช่องปากกันก่อน จากนั้นจิบ จอห์นนี่ วอล์กเกอร์ บลู เลเบิ้ล ในแก้วบรั่นดีอีกใบตาม เมื่อน้ าแร่เย็นๆ ที ่หลงเหลืออยู่ในช่องปากผสมกับวิสกี้ชั้นดีนี้ รสชาติที่แอบซ่อนจะซึมผ่านเพดานปากไปมัดใจนักดื่มเหล้าทั้งหลายไม่รู้ลืม
เสร็จสิ้นครบทั้ง 5 เลเบิ้ลของตระกูล จอห์นนี่ วอล์กเกอร์ กันแล้ว ต่อจากนี้นักดื่มเหล้าชาวไทยทั้งหลาย ก็จะดื่มได้แบบไม่เสียของกันแล้ว แต่ที่ส าคัญที่สุด ดื่มแล้วจะมึนน้อยหรือมึนมาก ก็อย่าขับรถเลย เก็บชีวิตที่มีค่าไว้สัมผัสกับสิ่งดีๆ ที่รอเราอยู่มากมายในวันข้างหน้าดีกว่า ...

No comments: