Thursday, January 21, 2010

ข้อดีที่น่าทึ่ง ของการนั่งสมาธิ


ประโยชน์ทางสุขภาพที่ได้จากการทำสมาธินั้นมีอยู่มากมาย ไม่เพียงเฉพาะแต่ผู้ที่มีปัญหาสุขภาพจะบรรเทาอาการได้เท่านั้น ในผู้ที่ฝึกทำสมาธิเป็นประจำยังช่วยป้องกันปัญหาสุขภาพได้ และป้องกันโรคต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นได้ การทำสมาธินั้นได้ถูกนำมาใช้กันในวงกว้างกับโรคร้ายแรงหลาย ๆ โรค โดยเฉพาะโรคที่ประสบความสำเร็จและมีการบันทึกไว้ก็คือเกี่ยวกับปัญหาทางด้านจิตใจ เช่นอาการสะเทือนใจและอื่น ๆ แล้วการทำสมาธิช่วยเรื่องสุขภาพได้อย่างไร?? ต่อไปนี้คือสิ่งที่เกิดขึ้นขณะที่ทำสมาธิ:
*คุณจะรับออกซิเจนน้อยลง
*คุณจะหายใจได้ดีขึ้น
*การไหลเวียนของเลือดดีขึ้น ทำให้อัตราการเต้นของหัวใจช้าลง
*ร่างกายจะแข็งแรงขึ้น โดยเฉพาะในส่วนของหัวใจของผู้ป่วย
*ร่างกายจะพักผ่อนได้ลึกขึ้น
*ทำให้ความดันเลือดที่สูงลดต่ำลง
*ลดความกังวล
*ลดความตึงของกล้ามเนื้อ และลดอาการปวดศีรษะ
*เพิ่มความมั่นใจในตัวเอง
*การผลิตฮอร์โมน serotonin ช่วยให้ทำให้จิตใจดีขึ้น
*ช่วยทำให้อาการก่อนมีประจำเดือนในผู้หญิงลดลง
*ช่วยให้ผู้ที่เข้ารับการผ่าตัดหายได้เร็วขึ้น
*กระตุ้นการสร้างระบบภูมิคุ้มกัน
*ช่วยให้อารมณ์คงที่ไม่แปรปรวน
ชนะความเครียด
ทุก ๆ คนล้วนมีแนวโน้มที่จะเกิดความเครียดได้จากชีวิตประจำวัน อาจเป็นจากที่ทำงานหรือที่บ้าน ขึ้นอยู่กับความสามารถของแต่ละคนในการจัดการกับปัญหา ความเครียดและความกังวลนั้นมีผลทำให้ระดับความดันเลือดสูงขึ้น และอาจทำให้เป็นโรคหัวใจ เมื่อทำสมาธิ ความเครียดก็จะไม่ค่อยเกิดขึ้น ดังนั้นปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพจิตก็จะไม่เกิดขึ้น
สิว
เมื่อเราจัดการกับความเครียดได้ การผลิตน้ำมันจากต่อมไขมันก็จะลดลง การอุดตันก็จะน้อยลง นั่นจึงเป็นเหตุที่ทำไมสิวถึงน้อยลง หน้ามันน้อยลงเมื่อเรานั่งสมาธิอยู่เป็นประจำ
ความเจ็บปวด
ผู้ที่ได้รับความเจ็บปวดอยู่ตลอดเวลาก็จะค่อย ๆ กลายเป็นความวิตกกังวล และทำให้ความอดทนต่อความเจ็บปวดน้อยลง โชคดีที่การทำสมาธิสามารถช่วยบรรเทาความกังวลได้ จึงช่วยลดความเจ็บปวดได้ด้วย
ป่วยเรื้อรัง
มีหลาย ๆ โรงพยาบาลที่แพทย์ใช้วิธีการให้ผู้ป่วยทำสมาธิเพื่อช่วยอาการป่วยเรื้อรัง เช่นมะเร็ง ซึ่งจะช่วยลดความกังวลเกี่ยวกับผลข้างเคียงจากยาที่ใช้ในการรักษา สำหรับผู้ป่วยที่ป่วยในระยะสุดท้าย การทำสมาธิก็จะช่วยลดความกังวลและความหดหู่และเพิ่มความรู้สึกดี ๆ ขึ้นมาได้
ความดันโลหิตสูง
การทำสมาธิจะให้ผลดีกับกรณีนี้มากในการช่วยลดระดับความดันโลหิตในผู้ป่วยด้วยโรคนี้ ก็จะทำให้ลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจสำหรับกลุ่มนี้
มีหลาย ๆ ปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพที่สามารถใช้วิธีการทำสมาธิเพื่อบรรเทาอาการต่าง ๆ เช่น เรื้อนกวาง, โรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ, อาการลำไส้ปั่นป่วน, Fibromyalgia (โรคกล้ามเนื้อตึง นอนไม่หลับ) เป็นต้น เมื่อความวิตกกังวลลดลง ก็จะทำให้ผู้ป่วยมีความมั่นใจมากขึ้น และควบคุมสถานการณ์ได้ และช่วยให้รับมือกับสถานการณ์นั้น ๆ ได้ดีขึ้น

การฝึกกรรมฐานด้วยตนเองแบบง่ายๆ


แต่งกายให้สะอาดเรียบร้อย บูชาพระ ทำใจเคารพในพระพุทธเจ้า พระธรรม พระอริยสงฆ์ ให้แน่นอน กล่าววาจานมัสการพระรัตนตรัย นึกในใจหรืออกเสียงก็ได้ ภาษาบาลีหรือภาษาไทยก็ได้ พระพุทธเจ้าท่านมีจิตเป็นทิพย์ ท่านฟังรู้เรื่องหมด จะมีดอกไม้ธูปเทียนหรือไม่มีก็ได้
นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อาระหะโต สัมมา สัมพุทธัสสะ ( 3 จบ)
ข้าพเจ้าขอนอบน้อมนมัสการ สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าผู้เป็นพระอรหันต์ พระองค์นั้น ( 3 ครั้ง)
พุทธัง สะระนัง คัจฉามิ ข้าพเจ้าขอถึงพระพุทธเจ้า เป็นที่พึ่งตลอดชีวิต
ธัมมัง สะระนัง คัจฉามิ ข้าพเจ้าขอถึงพระธรรมคำสอน เป็นที่พึ่งตลอดชีวิต
สังฆัง สะระนัง คัจฉามิ ข้าพเจ้าขอถึงพระอริยสงฆ์สาวกของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นที่พึ่งตลอดชีวิต
ต่อไปก็ตั้งใจ กำหนดไว้ในใจว่า จะรักษาศีล 5 ตลอดชีวิตดังนี้
1) เราจะไม่ฆ่าสัตว์ ทรมานคน สัตว์ ให้ตาย หรือให้ได้รับความเดือดร้อนตลอดชีวิต
2) เราจะไม่ลักขโมย คดโกง หลอกลวง ในทรัพย์สินเงินทอง ของคนอื่นมาเป็นของเราตลอดชีวิต
3) เราจะไม่ทำเจ้าชู้ ลูก สามี ภรรยา และคนในปกครองของผู้อื่นโดยที่ผู้ปกครองและเจ้าของไม่อนุญาต ตลอดชีวิต
4) เราจะไม่พูดปดคือวาจาที่ไม่ตรงความจริง ไม่พูดวาจาหยาบคายให้เป็นที่สะเทือนของผู้รับฟัง ไม่ยุ หรือนินทาคนอื่น ให้เป็นเครื่องบาดหมาง หรือแตกร้าวกัน ไม่พูดวาจาเหลวไหลไร้ประโยชน์ตลอดชีวิต
5) เราจะไม่ดื่มสุราเมรัย เล่นพนัน ติดฝิ่น ยาบ้า ยาระงับประสาททุกชนิด ตลอดชีวิต
6) เราจะไม่คิดอยากได้ทรัพย์สินของบุคคลอื่นโดยที่เจ้าของไม่ได้ให้ด้วยความเต็มใจตลอดชีวิต
7) เราจะไม่จองเวร จองล้าง จองผลาญ จองกรรม คิดพยาบาท แก้แค้นในบุคคล ที่ทำให้เราไม่พอใจ ถ้าไม่หนักเกินไป เราจะให้อภัยแก่ผู้นั้นตลอดชีวิต
เราจะไม่ฝ่าฝืนพระธรรมคำสอน มีศีลเป็นต้น จะปฏิบัติตามคำสอนด้วยความเคารพ ตลอดชีวิต
ทั้งหมดจะกล่าวเบา ๆ หรือคิดในใจก็ได้ พระพุทธองค์ทรงทราบได้ แล้วสมาทานพระกรรมฐานด้วย ตั้งนะโม 3 จบ แล้วกล่าวดังนี้
อิมาหัง ภะคะวา อัตตะภาวัง ตุมหากัง ปริจัจ ชามิ แปลว่า ข้าแต่องค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าผู้เจริญ ข้าพระพุทธเจ้า ขอมอบกายถวายชีวิตแด่องค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้า
สมาทานแล้ว กราบ 3 ครั้ง ด้วยความเคารพ ต่อไปเริ่มทำสมาธิ การนั่งอย่าลืมว่าเราปฏิบัติที่จิต เราไม่ได้หัดนั่ง หัดยืน หัดเดิน ดังนั้นควรทำกายให้สบาย จิตจะได้ฝึกให้เป็นสมาธิ คือจิตตั้งมั่นในอารมณ์หนึ่งอารมณ์เดียว ไม่วอกแวกๆไปไหน ได้ง่าย ๆ จะนั่งท่าไหนก็ได้ตามแต่ร่างกายจะสบาย จะยืนเดิน ก็ได้ไม่ห้าม อย่าฝืนร่างกายต้องทุกข์ทรมาน จิตจะไม่เป็นสมาธิ
บทภาวนาในที่นี้ ขอแนะนำให้ภาวนา พุทโธ เพราะสั้น ง่าย มีอานิสงส์ มีบุญมาก เพราะเป็นนามของพระพุทธเจ้า หายใจเข้านึกตามลมหายใจเข้า เร็ว ลึก ตื้น ให้สังเกตลมนึกว่า พุท หายใจออกจิตดูลมออกจากปอดถึงปลายจมูกเร็วหรือสั้นนึกว่า โธ จำภาพพระพุทธรูปที่วัดไหน แบบใดก็ได้ที่ชอบ ถ้าพระพุทธรูปอยู่ใกล้ ให้ลืมตาดูพระพุทธรูป พอจำได้ดีแล้ว หลับตา นึกถึงภาพพระ กำหนดลมหายใจเข้า-พุท หายใจออก-โธ ไปด้วย ถ้าภาพเลื่อนไปจากใจ ให้ลืมตาดูใหม่ ในไม่ช้าจิตจะทรงสมาธิ พุท-โธ ได้ดี ไม่ต้องมองภาพพระ ก็สามารถนึกถึงภาพพระได้ตลอดเวลา ติดตาติดใจอย่างนี้ ท่านเรียกว่า จิตเป็นฌาน
การทำสมาธินี้ ท่านจะทำได้ทุกลมหายใจเข้าออก ไม่ว่าจะขับรถ วิ่ง ทำงาน รับประทานอาหาร หรืออยู่ในห้องส้วม หรือก่อนนอน ตื่นนอน ได้ตลอดเวลาที่ยังตื่นอยู่ ให้ทำแบบคนไม่มีเวลาที่จะหยุดทำสมาธิ งานทางโลกจะดีเกิดคาด เพราะได้ทางธรรม คืองานทางจิตด้วย เมื่อจิตสะอาด ฉลาด งานทางโลก ซึ่งเป็นงานทางกายก็สำเร็จ เพราะจิตเป็นสมาธิ งานไม่ขาดตกบกพร่อง
ภาวนาดูลมหายใจเข้าออก นึกพุทโธ ควบคู่กันไป แต่ถ้าเกิดอารมณ์หงุดหงิด หรือฟุ้งซ่านตั้งอารมณ์ไม่อยู่จงเลิกเสีย จะเลิกเฉยๆ หรือดูโทรทัศน์ คุยกับเพื่อนให้อารมณ์สบาย อย่ากำหนดเวลาตายตัว จะต้องนั่งให้ครบเวลา อย่าเครียด ทำให้สนุก สนุกกับงานทางจิต ถ้าเครียดก็เลิกทำ ทำอย่างอื่นหรือพิจารณาธรรมชาติของโลก ร่างกาย ชีวิตมีแต่ปัญหายุ่งยาก เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ไม่อยู่ในความควบคุมของเราได้ เป็นกฎธรรมชาติ หนีไม่พ้น คือ ทุกขัง อนิจจัง อนัตตา คือไม่ใช่ของใครทั้งสิ้น ควบคุมไม่ได้ ในที่สุดก็พังสลาย ตายกันหมด คนเกิดมาเท่าไร ตายหมดเท่านั้น
การใช้คำภาวนา พระท่านไม่ได้กำหนด จะใช้อะไรก็ได้ พุทโธ ก็ได้ ธัมโม ก็ได้ สังโฆ ก็ได้ นะโมพุทธายะ ก็ได้ ยุหนอพองหนอ ก็ได้ แต่ถ้าระลึกถึงพระพุทธเจ้าด้วยยิ่งดีมาก เพราะเป็นพุทธานุสสติกรรมฐาน ทำจิตให้สะอาด สว่าง ไสว เบิกบาน เพราะนึกถึงผู้ที่มีคุณธรรมสูงส่งไปด้วย ความกตัญญูในพระองค์ท่าน จะมีแต่ความสุขความเจริญ มีเดชเดชะ เป็นที่รักของบุคคลที่ได้พบเรา ผู้ที่นึกถึงพระพุทธเจ้า ตายแล้วไปเสวยสุข สวรรค์ นิพพาน ผู้ที่ไม่ได้นึกถึงพระพุทธองค์ จิตวุ่นวายทางโลก จิตเศร้าหมอง ตายแล้วก็มีหวังไปสู่ทุคติ คือ ความทุกข์เกิดทางต่ำ เช่น นรก เปรต อสุรกาย สัตว์เดรัจฉาน ถ้าเกิดเป็นคนก็เป็นคนต่ำช้า ตกยากลำบาก เพราะจิตไม่สะอาด

การร่วมเพศครั้งแรกของผู้ชาย


ใช้เวลาพูดคุยกระหนุงกระหนิง สร้างความคุ้นเคยและความรู้สึกผ่อนคลายเป็นกันเอง แม้จะคบหากันมาตั้งหลายปี แต่พอเป็นครั้งแรกมักก็เกิดอาการเคอะเขินแบบนี้แหละ แต่เชื่อเถอะเคอะเขินกันได้ไม่นานหรอก พูดจาสื่อสารกันให้เข้าใจ ผ่อนคลายเป็นเรื่องสำคัญที่สุดที่ผู้ชายต้องไม่ลืม รู้จักใช้ถ้อยคำอันอ่อนหวาน เพื่อสร้างความรู้สึกที่ดี
บรรยากาศเป็นสิ่งสำคัญ ไม่ควรเปิดไฟในห้องให้สว่างมาก หลายคนอาจอายไม่อยากให้เห็นอะไรๆเกินไปนัก พยายามสร้างอารมณ์ขัน อย่าปล่อยตัวเกร็ง หายใจลึกๆผ่อนออกช้าๆ นึกถึงแต่สิ่งดีๆที่จะเกิดขึ้น
ใช้มือโอบและแตะเนื้อตัวจนร่างกายคุ้นเคย หายตื่นตระหนก จึงเริ่มทำการสำรวจสภาพพื้นที่ มือลูบไล้ ปากซอกซอนทุกส่วนโค้งและส่วนเว้า และต้องใจเย็น อย่ารีบร้อน ถ้าในสิ่งที่เธอต้องการและทำในสิ่งที่เธอชอบ
เมื่อร่างกายพร้อมแล้ว จึงเริ่มทำการสอดใส่ช้าๆไม่ต้องเร่งอีกเช่นกัน ขั้นตอนต่อจากนี้ก็ให้จินตนาการกันเอาเอง
จุดเร้าที่ไม่ควรลืม
ใบหน้า
โดยเฉพาะที่ดวงตา ริมฝีปาก ใบหู สัมผัสได้ทั้งการจูบ เลียหรือใช้ลมหายใจอุ่นๆ
หัวนม
เร้าใจได้สุดยอด ทั้งชายและหญิง ใช้ปากดูดหรือลิ้นเลีย อาจใช้นิ้วคลึงเบาๆด้วยก็ได้
เอว
เป็นโซนที่ไม่ค่อยมีใครเข้าสำรวจ แต่จะสร้างความพอใจกับสาวได้มาก ถ้าใช้มือนวดแรงๆหรือเกาะกุมไว้ในฝ่ามือ
ส่วนก้น
ออกแรงบีบหนักหน่อยตรงบริเวณแก้มก้น จะหยิกหรือนวดแรงๆ ตีเบาๆก็ได้ทั้งนั้น
ขาอ่อน
นวดเบาๆเป็นวงกลม ด้านในของขาอ่อน เธอจะชอบมาก
หนังศรีษะ
ใช้มือนวดศรีษะเบาๆ หรือใช้นิ้วมือลูบไล้เส้นผม
คอและหัวไหล่
เป็นโซนที่เร้าอารมณ์ได้มาก จะใช้การจูบ เลีย ลูบไล้หรือนวดเบาๆที่ต้นคอหรือหัวไหล่ก็สร้างอารมณ์ได้ดี
หน้าอก
เป็นจุดศูนย์กลางของการสร้างอารมณ์ ใช้ได้ทั้งปากและมือ ทั้งจูบ บีบและนวด แต่ควรทำเบาๆนะจ๊ะ
หน้าท้อง
ไวต่อการถูกจูบหรือไล้เบาๆ
ส่วนขาด้านหลัง
โดยเฉพาะกล้ามเนื้อต้นขาด้านหลัง และข้อพับเข่า ใช้มือบีบ นวด ลูบไล้เบาๆ
ควรใช้เวลาเท่าไหร่?
ถ้าเทียบเวลาตั้งแต่เริ่นต้นจนถึงเสร็จกิจจะต่างกันออกไปในแต่ละคน คือตั้งแต่ 10-30 นาที ขึ้นกับเทคนิค ลีลาของแต่ละคนว่าเล้าโลมมากน้อยเพียงใด 15 นาทีแรก เป็นการเล้าโลมสร้างอารมณ์ อีก 5หรือ10นาทีหลัง จึงเป็นการร่วมรัก
ปัญหาก็คือ ผู้ชายส่วนใหญ่ไม่สามารถฝ่าฟันไปถึงเวลาที่กำหนด บางคนมีปัญหาการหลั่งเร็ว การรู้จักควบคุมตัวเองของผู้ชาย คือเรื่องสำคัญที่ต้องเรียนรู้ ไม่ด่วนหลั่งก่อนเวลาอันควร ทั้งนี้เพื่อความสุขและความพึงพอใจสูงสุดของทั้งคู่ ทั้งนี้การสอดใส่ควรมีการชักเข้าชักออกไม่ต่ำกว่า 50 ครั้งต่อหนึ่งยก หรืออย่างน้อยต้องทำต่อเนื่องนานหนึ่งถึงสองนาที ผู้หญิงก็อาจถึงจุดสุดยอดได้ แต่ผู้ชายส่วนใหญ่มักมีปัญหาตรงที่ทำได้ไม่กี่ครั้งก็หลั่งเสียแล้ว สิ่งนี้เป็นตัวบั่นทอนความมั่นใจในตัวเอง
เร้าใจเธอได้อย่างไร
ทำอย่างไรเธอจึงจะสมหวังมากที่สุด เพราะบางคนอาจใช้แรงมากไป ทำเร็วไป กดลึกเกินไปจนเธอเจ็บและหมดอารมณ์
วิธีไล้เพื่อพาเธอไปถึงความรู้สึกดีๆควรทำดังนี้
1. ใช้นิ้วชี้ไล้เป็นวงกลมตรงจุดกระสัน (คริทอริส) และส่วนริมฝีปากของมดลูกทั้งด้านนอกและด้านใน โดยเฉพาะด้านขวาของจุดกระสันจะเป็นบริเวณที่ไวสัมผัสมากที่สุด
2. ใช้ปลายข้อนิ้วชี้และนิ้วกลางสอดเข้าไป เสียบเอาเข้าออก ทำช้าๆแล้วจึงเร็วขึ้นปรับแต่งจังหวะ ช้า-เร็ว ตามเหมาะสม
3. อาจจะถ่างปลายนิ้วออกเล็กน้อยเพื่อกระตุ้นการหล่อลื่นให้เธอเวลาที่เธอใกล้ถึงจุดสุดยอด
4. หากไม่ต้องการให้เธอถึงจุดสุดยอดด้วยนิ้วของคุณ เมื่อเธอใกล้แล้วให้คุณสอดใส่น้องชายและเอาเข้าออกจนเธอถึงจุดสุดยอด
5. ควรให้ผู้หญิงถึงจุดสุดยอดก่อนไม่ว่าจะจากนิ้วหรือน้องชายของคุณ
เอาล่ะ..ก่อนที่คุณจะทำการใดๆอย่าลืมคิดที่จะป้องกันด้วยการสวมถุงยางอนามัยก่อนที่จะสอดใส่ และสิ่งที่สำคัญมากๆถึงมากที่สุดก็คือความรุ้สึกของผู้หญิง ถ้าผู้หญิงพร้อมคุณก็พาเธอไปถึงสวรรค์ได้ดี แต่ถ้าเธอไม่พร้อมและคุณต้องการจะมีเพศสัมพันธ์กับเธอ คงไม่มีอะไรเลวร้ายกับผู้หญิงเท่าเรื่องแบบนี้อีกแล้ว การคิดถึงจิตใจของผู้หญิงสำคัญที่สุด เพราะจะทำให้เธอปลุกเร้าอารมณ์ได้ง่ายและเต็มใจที่จะร่วมรักกับคุณ!!!!!

จุดเสียวของหญิงสาวที่ท่านชายควรรู้


แต่จะยังมีจุดอื่นอีกหลากหลายบนเรือนร่าง ที่สามารถ สร้างอารมณ์ตื่นเต้นและความรู้สึกตื่นตัวอย่างรวดเร็วได้

ต่างกับฝ่ายชาย ที่จุดสร้างความพึงพอใจทางเพศ และความตื่นตัวทางเพศ มักจะจำกัดอยู่เพียงบริเวณ ปลายและลำอวัยวะเพศ อัณฑะ รอบรูทวารหนัก เท่านั้น หลายคนคงสงสัยโดยเฉพาะในหมู่ผู้ชาย และมักมีหัวข้อในการสนทนา เรื่องนี้อยู่บ่อยๆ ต่างคนมักจะคาดเดา และพูดกันไป ถึงจุดซ่อนเร้นต่างๆบนเรือนร่างบ้างก็เคยได้มีโอกาสทดสอบด้วยตัวเองมาแล้ว
วันนี้ผมรวบรวมเอาจุด ต่างๆ10 ตำแหน่งที่ถือว่าเป็นจุด อ่อน ของคุณผู้หญิง เท่าที่ได้มีการศึกษาอย่างเป็นวิทยาศาสตร์ จุดดังกล่าว ถ้าได้รับการกระตุ้น อย่างถูกวิธี ไม่ว่ารายไหนรายนั้นเป็นได้เรื่อง

10.บริเวณต้นขาด้านใน
ต้นขาด้านในเป็นตำแหน่งที่มีปลายเส้นประสาทมาหล่อเลี้ยงมาก การได้รับการกระตุ้นอย่างแผ่วเบาไม่ว่าจากการ ลูบไล้ หรือ โลมเลีย สามารถจุดประกายอารมณ์ ของคุณผู้หญิง ให้เตลิดเปิดเปิงไปได้ ตำแหน่งนี้ อาจจะลดต่ำลงมาถึงบริเวณข้อพับเข่าด้านหลัง แต่อย่าลืมนะเนื่องจากตำแหน่งดังกล่าวไวต่อความรู้สึกมาก การหยิก จิกเนื้อเพียงเบาๆ อาจจะทำให้ เกิดอาการเจ็บได้อย่างมาก คุณผู้ชาย ที่กำลัง เมามันอย่าเผลอ ไปกัดเอาเนื้อบริเวณนี้เข้า ก็แล้วกัน

9.ข้อพับเข่า
พบว่า ตำแหน่งนี้เป็นอีกตำแหน่ง คุณผู้ชายอาจจะคาดไม่ถึง ตำแหน่งนี้ จะไวมากต่อการ สัมผัสกับลมเป่าหรือการแทะเล็มเบาๆจากริมฝีปาก รับรองคุณผู้ชายจะคาดไม่ถึง ถึงอาการและปฏิกิริยาตอบสนองจากฝ่ายหญิง ผมให้ลับตานึกภาพกันเอาเอง

8.แก้มก้น
แน่นอนผู้หญิงส่วนใหญ่ ชอบที่จะให้ มีการนวดคลึงบีบเค้นบริเวณแก้มก้น ระหว่างมีบทรัก บ้างก็ชอบให้ใช้ความแผ่วเบา จากริมฝีปาก ของฝ่ายชายลูบไล้ ไปมา บ้าง ก็ชอบให้ใช้ส่วนอื่น.....มาสัมผัส คุณคงจะเคยเห็น ในภาพยนตร์ฝรั่งอยู่บ่อยๆ ที่มีการ ฉายภาพ Close up เข้ามาที่มือของพระเอกในขณะที่ กำลังบีบเค้น แก้มก้น ของนางเอก ในฉากเต้นรำกลางงานเลี้ยงที่หรูหรา การบีบเค้น นัยว่า จะทำให้ฝ่ายหญิง รู้สึกเคลิ้มสบายและผ่อนคลายมากกว่า การจะปลุกสร้างอารมณ์ที่ตื่นเต้น แต่อย่างไรก็ตามจุดนี้ถือเป็น องค์ประกอบที่สำคัญในการที่จะสร้างความอุ่นใจ และ และพิสูจน์ความไว้ใจและมอบใจจากฝ่ายหญิง ให้ฝ่ายชายได้เป็นอย่างดีหากไม่มีการปัดป้องจากฝ่ายหญิง

7.ซอกต้นคอ
การกระตุ้นด้วยลมหายใจ ร่วมกับ เสียงครวญเบาๆ ที่ตำแหน่งต้นคอ ไล่เรียงไปจากด้านข้างสู่ด้านหลัง ขณะที่มือคุณ ให้การสัมผัสที่ชายผมบริเวณท้ายทอย สามารถสร้างอารมณ์ตื่นเต้นและความต้องการ ขึ้นมาได้อย่างทันที ราวกับการจุดผลุอารมณ์ที่พร้อมจะระเบิดทะยานพุ่งขึ้นสู่จุดสูงสุดได้อย่างฉับพลัน

6.ใบหู
การใช้ริมฝีปาก ลิ้น กระตุ้นที่ใบหูอย่าง แผ่วเบา ร่วมกับ การ หายใจเป่าลมเข้าไปในรูหูอย่างเบาๆและต่อเนื่องสักระยะ หรืออาจจะเปลี่ยน เป็น เสียงกระซิบกระซาบ แบบอาศัยลมเป่าจากการกระซิบ ทำให้ผู้หญิง นักต่อนัก สะกดกลั้นอารมณ์ตัวเองไม่อยู่ รายไหนรายนั้น เสียงกระซิบอย่างแผ่วๆ ต้องเป็นเนื้อหา ที่จะให้อารมณ์คล้อยไปด้วยนะ อย่ากระซิบเป็นอันขาดว่า “ที่รักคุณน่าจะแคะขี้หูหน่อยนะ” ผมเพียงแต่ยกตัวอย่างขึ้นมาให้เห็นเท่านั้นเองว่าเนื้อหา ของการกระซิบควรจะเป็นเนื้อหาที่สร้างอารมณ์มากกว่า การดับอารมณ์

5.เท้า
ผู้หญิงจำนวนไม่น้อยเลยชอบที่จะได้รับการ สัมผัส บีบนวดที่ เท้า เกาที่ ฝ่าเท้า ซอกนิ้วเท้า และ ข้อเท้า การ บีบเค้นนวดที่ส้นเท้า จะช่วยสร้างอารมณ์ อย่างค่อยเป็นค่อยไป แต่ได้ผลชะงัด การกระตุ้น ที่บริเวณนี้ ผู้ชายบางคนอาจจะใช้ริมฝีปากจิก กัด ที่ปลายนิ้วเท้า ของผู้หญิง ระหว่างที่หญิงกำลังใช้จินตนาการในการ สร้างอารมณ์ หากคุณจะใช้ริมฝีปากประทับไปที่ฝ่าเท้า คุณต้องมั่นใจในความสะอาด เรื่องนี้ผู้ชายบางคนถึงกับ ต้องให้มีการชำระล้างอาบน้ำก่อนทุกครั้ง

4.ข้อมือ
ผู้ชายหลายคน คงต้องตกใจ ถ้าผมบอกว่า ข้อมือ เป็นจุดเป้าหมายทางยุทธศาสตร์ อีกแห่งที่ฝ่ายชายอย่าละเลย คุณไม่เชื่อ ลองครั้งต่อไป ของคุณลอง ประเล้าประโลม (Foreplay) ที่บริเวณข้อมือ ดูนะ ไม่ว่าจะจาก การ สัมผัส ลูบไล้ด้วยมือ หรือ ประทับ ด้วยริมฝีปาก กัดเบาๆด้วยริมฝีปากหรือฟัน หน้า ของคุณ รับรองว่า จะเห็นผลอย่างคาดไม่ถึง

3.ถันและยอดถัน
จุดนี้คงไม่อยู่เหนือความคาดหมาย ทุกคนคงทราบดี ต่างกันที่วิธีการเท่านั้น ผู้หญิงส่วนใหญ่ชอบและพึงพอใจ กับการถูกกระตุ้นที่ตำแหน่งนี้ ด้วยการการใช้ปาก ดูด (Sucking) เลีย(Licking) กัดเล็ม (Bitting) คุณผู้ชายอาจจะต้องเรียนรู้ในคู่ของตัวเอง ไปว่าพึงพอใจแบบใดมากที่สุด อย่าลืมอย่างนะ ไม่มีผู้หญิงคนไหนชอบความรุนแรงแบบตะกละตะกลาม กับอวัยวะส่วนนี้ของตน

2.อวัยวะเพศ ที่ คลิตอริส
ไม่ว่าการใช้ปาก ลิ้น นิ้วมือ สามารถ ทำให้ เกิดความพึงพอใจถึงขีดสูงสุดได้ และยิ่งถ้าคุณได้เรียนรู้ถึงตำแหน่ง G-spot ของฝ่ายหญิงด้วย การกระตุ้นที่จุดนี้ นำไปถึงซึ่งความสุขแบบสุดยอด ได้เลย

และตำแหน่งที่จัดว่าเป็นอันดับหนึ่งคือ

1.ริมฝีปาก
คุณผู้ชายอาจจะต้องเรียนรู้ในการกระตุ้นที่จุดนี้ให้มากที่สุด การใช้ ริมฝีปาก ทั้งบนและล่าง ลิ้น ฟัน ประทับ จิก กัด ลิ้นไล้เลีย หรือแม้แต่การดูด เบาๆ