เทคนิคการผูกเชือกรองเท้าแบบ DOUBLE BACK
เทคนิคการผูกเชือกรองเท้าแบบ RIDING BOW
เทคนิคการผูกเชือกรองเท้าแบบ CHECKER BOARD
เทคนิคการผูกเชือกรองเท้าแบบ LATTICE
เทคนิคการผูกเชือกรองเท้าแบบ HIDDEN KNOT
เทคนิคการผูกเชือกรองเท้าแบบ TWISTIE
เทคนิคการผูกเชือกรองเท้าแบบ ZIPPER
เทคนิคการผูกเชือกรองเท้าแบบ HASH
เทคนิคการผูกเชือกรองเท้าแบบ DISPLAY
เทคนิคการผูกเชือกรองเท้าแบบ LADDER
เทคนิคการผูกเชือกรองเท้าแบบ BUSH WALK
เทคนิคการผูกเชือกรองเท้าแบบ SAW TOOTH
เทคนิคการผูกเชือกรองเท้าแบบ BI COLOR
เทคนิคการผูกเชือกรองเท้าแบบ D.LOOP BACK
Sunday, March 30, 2008
เทคนิคการผูกเชือกรองเท้า
Friday, March 28, 2008
5 จุดยุทธศาตร์แห่งเซ็กส์
5 จุดยุทธศาตร์แห่งเซ็กส์ ลายแทงแห่งจุดสัมผัส บนร่างกายของผู้หญิง ที่คุณจะพาเธอไปถึงสวรรค์
ถ้าคุณรู้ว่าจะสัมผัสเธอตรงส่วนไหน ก็สามารถเอาชนะความท้าทายไปแล้วกว่าครึ่ง เรือนร่างสตรีเปรียบได้กับสิ่งมหัศจรรย์เป็นสิ่งมหัศจรรย์ที่เต็มไปด้วยส่วนโค้ง ส่วนเว้า อ้อนแอ้นอรชร แถมยังนุ่มนวลชวนโอบกอด สตรียังบอกด้วยว่า เวลาที่คุณสุภาพบุรุษใช้มืออันหยาบใหญ่ สัมผัสไปยังจุดที่ถูกต้องบนร่างกายพวกเธอ พวกเธอถึงกับละลายทีเดียวเชียว แต่ปัญหาติดอยู่นิดเดียว ตรงที่ผู้หญิงก็คือผู้หญิง มักสงวนถ้อยคำที่จะบอกให้ชายรู้ ว่าเธอ ปรารถนาจะให้บุรุษแตะต้องตรงไหน หนักเบาเพียงใด หรืออ้อยอิ่งแค่ไหน ผู้หญิงส่วนใหญ่ เล่นเกมลองผิดลองถูกกับเพศตรงข้ามมาเป็นเวลานาน และเมื่อบุรุษบอกผิด เธอมักงอน ถึงเวลาที่จะมีใครยื่นแผนที่ให้บรรดพวกผู้ชายได้แล้ว นักเพศศาสตร์รุ่นใหม่ ช่วยกันวาดแผนที่ขึ้นมาฉบับหนึ่ง โดยบอกว่าแผนที่ฉบับนี้ ไม่ได้แสดงเส้นทางถนนหลวง แต่จะแสดงจุดที่น่าสนใจสำหรับนักเดินทาง ที่ควรหยุดสำรวจและซึมซับความสวยงามของภูมิประเทศ เดินตามเส้นทางในแผนที่ฉบับนี้ซึ่งเปรียบเสมือนลายแทงแล้ว
คุณสุภาพบุรุษจะสามารถพาคู่รักไปยังจุดที่เธอปรารถนาทุกที่...โดยไม่ต้องหยุดถามทางให้เสียเวลา
1.ริมฝีปาก...เป็นการหลงทางหมายเลข 1 (บ่อยที่สุด) สำหรับผู้ชายแต่งงานแล้ว ระหว่างมีเพศสัมพันธ์กันปัญหาใหญ่สำหรับเส้นทางสายนี้ คือ ผู้ชายมักละเลยการจูบ "สตรีส่วนใหญ่ปรารถนาสัมผัสจากการจูบ แต่ผู้ชายมักไม่ยอมเสียเวลากับการจูบ ดร.เบอร์นี่ ซิลเบอร์เกล นักเพศศาสตร์ผู้เขียนหนังสือ The New Male Sexuality กล่าว ไม่ใช่แค่จูบให้บ่อย แต่ต้องรู้จักปรับปรุงวิธีจูบให้ดีขึ้น ลองเริ่มต้นง่าย ๆ ด้วยการจูบให้หลากหลายระดับความหนักหน่วง (จูบเธอด้วยความนุ่มนวล จูบให้เร่าร้อนขึ้น แล้วผ่อนคลายลง) หลังจากจูบที่ริมฝีปาก ให้เปลี่ยนตำแหน่งไปจูบที่พวงแก้ม เปลือกตา หน้าผาก จมูก ซอกคอ หรือใบหู
รับคะแนนโบนัส ถ้าคุณใช้เวลาจูบเธอนานหลายนาทีได้โดยควบคุมมือไม่ให้เลื้อยวุ่นวาย ปล่อยให้เธอเป็นฝ่ายชี้นำเมื่อเธอพร้อมจะให้เหตุการณ์ก้าวหน้า
2.กะโหลกศีรษะ...ถ้าสังเกตุจะเห็นว่าผู้หญิงส่วนใหญ่ชอบเล่นกับเรือนผมตัวเอง เดี๋ยวสาง เดี๋ยวดึง เดี๋ยวเสย ไม่ใช่นิสัยประสาทๆ ส่วนตัว แต่ให้ความรู้สึกที่ดีต่างหาก กะโหลกศีรษะและหนังศีรษะ เป็นส่วนที่ไวต่อความรู้สึกอย่างเหลือเชื่อเมื่อได้รับการกระตุ้น ผู้หญิงมักไม่คาดคิดว่าผู้ชายจะให้ความสนใจกับร่างกายส่วนนี้ เพราะฉะนั้นรีบ ๆ สร้างความ ประทับใจให้เธอซะ ด้วยการแปรงผมให้ หรือใช้นิ้วสางเส้นผมอันนุ่มสลวยของเธอขณะจูบกัน หรือคลึงศีรษะเธอเบา ๆ
รับคะแนนโบนัส ถ้าคุณสระผมหรือใช้เครื่องเป่าผมให้เธอ (ปล่อยเรื่องการจัดทรงให้เป็นเรื่องของเธอ คุณไม่มีวันทำได้ถูกใจเธอแน่นอน)
3.ทรวงอก...เป็นสรีระในตัวผู้หญิงที่ผู้ชายคุ้นเคยมากที่สุด แต่ถ้าจะทำให้ถูกใจสตรี ยากที่จะเปลี่ยนแปลงความคิดได้ในระยะเวลาอันสั้น ความผิดที่ผู้ชายทำมากที่สุด คือให้ความสนใจกับสรีระส่วนนี้มากเกินไปก่อนที่เธอจะพร้อม การสัมผัสทรวงอกมากเกินไป กลายเป็นความหุดหงิด (หรือเจ็บปวดได้เหมือนกัน)
สำหรับผู้หญิงในบางช่วงเวลาของการมีรอบเดือน ดร.ลินดา เดอ วีลเลอร์ นักเพศศาสตร์ แนะนำให้ลองแตะต้องทรวงอกผู้หญิงด้วยความนุ่มนวลในการเริ่มต้น จากนั้นให้ละมือออกมา ปล่อยให้เธอเป็นฝ่ายตัดสินใจเอง ว่าต้องการรับสัมผัสที่ทรวงอกอีกเมื่อใด (คุณต้องรู้ได้แน่ ๆ) ระลึกไว้เสมอว่า บริเวณทรวงอกทั้งหมด เต็มไปด้วยปลายประสาทสัมผัส ไม่จำเป็นต้องพุ่งความสนใจไปที่จุดปลายยอดอกแต่ประการเดียว
4.บริเวณหลังส่วนล่าง...อย่าหลงทางทำผิด คิดว่าทรวงอกของสตรีเป็นจุดแวะจุดเดียว ก่อนก้าวนำรถเข้าสู่เหตุการณ์สำคัญ ผู้หญิงส่วนใหญ่มักคาดคิดเช่นนั้น แต่จงสร้างความแปลกใจให้เธอ ด้วยการขอให้เธอนอนคว่ำหน้า (หรือคว่ำบนตัวคุณก็ได้) ลงมือนวดบริเวณหลังส่วนล่างให้เธอ (บริเวณปั้นเอว) สรีระส่วนนี้
นอกจากจะเป็นอีกบริเวณหนึ่งของร่างกายที่เต็มไปด้วย ปลายประสาทรับสัมผัสแล้ว ยังเป็นส่วนของร่างกายที่สะสมความเมื่อยล้าไว้มากอีกแห่งหนึ่ง
การนวดคลึงบริเวณนี้ อาจไม่ช่วยปลุกเร้าความรู้สึกทางเพศได้มากเท่าการเล้าโลมยอดอกหรือปุ่มกระสันต์ทำได้ แต่ก็ช่วยผ่อนคลายความตึงเครียดได้เป็นอย่งดี ผลดีที่ตามมาก็คือ การนวดคลึงสรีระส่วนนี้ ช่วยกระตุ้นการหมุนเวียนโลหิตบริเวณและโพกและเชิงกราน ซึ่งส่งผลโดยตรงเมื่อต้องการเร้าอารมณ์ อาจลองเริ่มด้วยการใช้นิ้วหัวแม่มือกดเบา ๆ ถ้าเธอชอบให้เคล้าคลึงด้วฝ่ามือ รับคะแนนโบนัส ถ้าคุณแทนที่ฝ่ามือด้วยรอยจูบ
5.บริเวณอ่อนนุ่มต่าง ๆ ของร่าง...สรีระของตรีมีจุดอ่อนนุ่มมากมาย สุภาพบุรุษสามารถใช้ความคิดสร้างสรรค์ในการปรนเปรอจุดสัมผัสเหล่านั้นได้อย่างเต็มที่
ก่อนอื่นต้องทำความรู้จักจุดที่ว่ากันก่อน บริเวณข้อพับด้านในหัวเข่า ท้องแขน เรียวขาอ่อนด้านใน ซอกคอ กลีบหู ลองจูบด้วยความแผ่วเบาลงบนบริเวณต่าง ๆ ที่กล่าวมา สตรีปรารถนาได้รับสัมผัสอันนุ่มนวล ละมุนละไมให้กับจุดต่างๆ เหล่านั้น ไม่ว่าจะเป็นการลูบไล้อย่างแผ่วเบา การจูบ เลียหรือพ่นลมหายใจใส่
คำเตือน...สรีระส่วนต่าง ๆ ที่กล่าวมา เป็นบริเวณที่ผิวหนังมีความละเอียดอ่อนมาก ดังนั้น ควรจะทะนุถนอมให้มาก เมื่อจะสัมผัสร่างกายส่วนนี้ของสาว
การกระตุ้นด้วยความนุ่มนวล ปลุกเร้าความรู้สึกและอารมณ์ได้ดีกว่าใช้แรงดุดัน คนส่วนใหญ่ไม่เชื่อ ว่าการไล้ลิ้นไปตามท้องแขนด้านในของสตรีสร้างความรัญจวนใจได้ มองว่าเป็นแค่เล่ห์กลในวรรณกรรม ให้ความสนใจกับจุดเล็กๆ เหล่านี้ อย่างน้อยก็สร้างความโรแมนติกได้ จังหวะก้าว (สู่การมีเซ็กซ์) ที่โรแมนติก
ช่วยสร้างความผ่อนคลาย และให้ผลดีสำหรับฝ่าย หญิงในการให้ความร่วมมือด้วยดีทุกอย่าง (เมื่ออยู่บนเตียง) อย่างเพิ่งปฏิเสธลองทำดูก่อน
ทั้งห้าจุดที่กล่าวมา เป็นจุดอ่อนโยนต่อสัมผัสจริงๆ ที่ค้นพบจากการศึกษาทางวิทยาศาตร์กายภาพสมัยใหม่ เป็นข้อแนะนำและเป็นคำตอบของการพาคู่สวาทของคุณไปสู่ความหฤหรรษ์แห่งเซ็กส์ เพียงทำได้แค่นี้ คุณก็จะกลายเป็นนักรักที่สาวๆ ติดอกติดใจได้ อย่างไม่ต้องลงทุนลงแรงอะไรมากมายอย่างที่คิดเลยครับ
Water & Coke น้ำ กับ โค้ก
ถ้าท่านรู้เรื่องนี้ ท่านจะดื่มน้ำมากขึ้น เพราะน้ำเป็นส่วนสำคัญของร่างกาย 75%
มีงานวิจัยพบว่าในคน 100 คน ที่ดื่มน้ำวันละ 8-10 แก้ว จะช่วยให้คน 80 คนลดอาการปวดหลังปวดข้อลงได้
ดื่มน้ำวันละ 5 แก้วลดปัจจัยเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งของลำไส้ใหญ่ได้ถึง 45 % มะเร็งเต้านมได้ 79%
และมะเร็งกระเพาะปัสสาวะได้เกือบ 50%
ทีนี้มาลองรู้จักน้ำ "โค้ก" กันหน่อย แน่นอนโค้กรสชาดยอดเยี่ยม
แต่ตำรวจทางหลวงจะบรรทุกโค้ก 2 แกลลอนในช่องท้ายรถเพื่อเวลามีรถชนกันสามารถเอา 'น้ำโค้ก'
ล้างเลือดบนถนนได้เกลี้ยงเกลา
ถ้าเอา T-bone steak ใส่ในชามกะละมังที่มีน้ำโค้กเต็ม จะพบว่าจะถูกละลายไปหมดใน2 วัน
รินโค้ก 1 กระป๋องลงในโถส้วมทิ้งไว้ 1 ชั่วโมงแล้วชักโครกกรดซิตริกในโค้กจะล้างคราบสกปรกในโถส้วมได้สะอาด
ถ้าต้องการกัดสนิมที่กันชนชุมโครเมี่ยมของรถ ให้เอาที่ขัดที่ทำด้วย foil ชุบโค้ก ขัดสนิมจะออกหมด
ถ้าจะล้างทำความสะอาดขั้วแบตเตอรี่ที่มีคราบกรดเกลือเกาะขาวๆ ให้เทน้ำโค้ก ฟองจะกัดคราบขาวออกได้หมด ถ้าจุดขวดติดแน่น งัดไม่ออก เอาผ้าชุบน้ำโค้กหุ้มไว้หลายๆ นาที จะบิดจุดขวดออกได้โดยง่าย
ถ้าจะปิ้ง moist ham ให้เทโค้ก 1 กระป๋อง เทลงในกระทะ ห่อแฮมด้วยอะลูมิเนียมฟอล์ยแล้วปิ้ง 30 นาที
ก่อนแฮมจะสุก แกะฟอล์ยออก ปล่อยให้น้ำเนื้อหยดลงไปผสมกับน้ำโค้กในกระทะ ท่านจะได้น้ำเกรวี่สีน้ำตาล
การล้างคราบไขมันจากเสื้อผ้า ให้ใช้น้ำโค้ก 1 กระป๋อง ผสมกับผงซักฟอกในปริมาณที่จะใส่ในเครื่องซัก ปล่อยให้ซักด้วยเครื่องตามปกติ โค้กจะช่วยกำจัดคราบไขมันได้สะอาดหมดจด
ท่านสามารถผสมโค้ก ลงในน้ำล้างกระจกรถยนต์ ฟอสฟอริคแอซิดในโค้ก จะช่วยทำความสะอาดกระจกได้ดี
น้ำโค้กมี pH 2.8 ถ้าตัดเล็บแช่ในน้ำโค้ก 4 วัน จะละลายหมด เวลาขนย้ายน้ำโค้กเข้มข้นเพื่อส่งตามโรงงานทั่วโลก
ที่รถ truck จะต้องติดป้ายไว้ว่า "มีวัตถุที่มีกรดกัดกร่อนได้ เป็นอันตราย"
บริษัทขายน้ำโค้ก ใช้น้ำโค้กทำความสะอาดเครื่องยนต์ของรถ truck มานานประมาณ 20 ปีแล้ว
ท่านยังอยากดื่ม โค้ก
หรือดื่มน้ำกัน เลือกเอาเอง
Thursday, March 27, 2008
วิธีการรักษามะเร็ง แบบธรรมชาติง่ายๆ
ควรพิจารณาด้วยครับเพราะว่าเป็นข้อมูลที่ได้จากทางอินเตอร์เนทที่ผมหามานะครับ
วิธีการรักษามะเร็ง แบบธรรมชาติง่ายๆ
พ่อเลี้ยง วรรณ พิมพ นิช เจ้าของรวมเกษตรฟาร์ม มาบรรยายวิธีรักษามะเร็งเมื่อเดือนที่แล้ว
ผมเห็นว่ามีประโยชน์ จึงนำมาถ่ายทอดให้เพื่อนๆฟัง ดังนี้
พ่อเลี้ยงวรรณฯ อายุ 60 ปี เป็นมะเร็งขั้นสุดท้ายที่กระดูกสันหลัง คุณหมอทั้งไทยและเยอรมัน ไม่รับรอง
ว่า จะรักษาหาย จึงไปทำการรักษาที่เกาหลีเหนือ เป็นเวลา 1 เดือน ก็หายจากโรค กลับมาเมืองไทย
จึงตั้งเป็นมูลนิธิวรรณ รับรักษาผู้ป่วยโรคมะเร็งที่ยากไร้ฟรี! ปัจจุบันมีผู้รับการรักษา 2000 กว่าคน
ณ อ.แม่สอด ห่างจาก จว.ตาก 100 กม.
วิธีการรักษามะเร็ง แบบธรรมชาติง่ายๆ 4 ข้อ ดังนี้
1. จิตใจ ต้องสู้
2. อาหาร งดเว้นเนื้อสัตว์ แล้วหันมารับประทานอาหารที่มะเร็งไม่รับประทาน 15 ชนิด ได้แก่
2.1 ธัญพืช 5 ชนิด ได้แก่ ข้าวกล้อง , ข้าวม้ง , ข้าวบาเล่ย์ , ข้าวสาลี , และลูกเดือย
นำมาหุงด้วยหม้อข้าวไฟฟ้า
2.2 ผักผลไม้ 10 ชนิด ได้แก่ หอมหัวใหญ่ , มันฝรั่ง , หรือมันเทศ , กล้วยน้ำว้าสุก ( 8
ลูก/วัน) , ฟักทอง , ข้าวโพดหวาน , ยอดแค , ถั่วพู (2 ชนิดนี้ห้ามขาด) , บลอคโคลี่
หรือกะหล่ำ ดอก , ถั่วหวาน และคะน้าฮ่องกง(ผักผลไม้ 5 ชนิดแรกใช้นึ่ง) นำทั้ง 10
ชนิด หั่นเป็นชิ้นๆ นำมาเข้าเครื่องปั่นแบบไม่ต้องละเอียดมาก เพื่อให้กระเพาะอาหาร
ทำหน้าที่ย่อย จากนั้นนำมารับประทานหนัก 1 กก./วันกับธัญพืช
3. อาบน้ำร้อนสลับเย็นหรือเย็นสลับร้อนอย่างละ 2 นาที รวมเวลา 10 นาที 1 ครั้ง/วัน
เตรียมน้ำร้อน โดยใช้เครื่องทำน้ำร้อน เตรียมน้ำเย็นโดยหาถังน้ำใส่น้ำแข็ง แล้วอาบร้อนจัด
และเย็นจัด เท่าที่ร่างกายทนได้ ภูมิต้านทานโรคทั้งสิ้น 2 จำพวก จะถูกกระตุ้นขึ้นมาทำหน้าที่
อย่างแข็งขัน
4. การออกกำลังกาย เดินเร็วหรือวิ่งเหยาะๆ ประมาณ 45 นาที/วัน
ถ้าเพื่อนสนใจ สามารถเขียนจดหมายติดต่อ ขอรับธัญพืชปลอดสารพิษจากไร่ อ.แม่สอด ตาม
สถานที่ข้างล่างนี้
" มูลนิธิวรรณ " เลขที่ 3/681 ประชานิเวศน์ ถ.เทศบาลนิมิตเหนือ ลาดยาว จตุจักร กทม.
- เบอร์โทรศัพท์มือถือ พ่อเลี้ยงวรรณ 02 1580658 / 086-7886222
ข้อควรรู้ในการกินยาเม็ดแคปซูล
หลายๆคนป่วยจากการกินยา เม็ดแคปซูลกับน้ำอุ่นโดยที่ไม่รู้ว่ายาจะถึงกระเพาะก่อนละลายน้ำหรือไม่
เป็นเรื่องที่น่าคิดว่าคุณควรจะกินยาแบบไหนดี
คำแนะนำจาก แพทย์
- ยาเม็ดสามารถ ละลายด้วยน้ำเย็น หลังจากกลืนคุณควรดื่มน้ำตามมาก ๆ
- ควรทานยาก่อนนอน 30 นาที ไม่ควรทานยา แล้วนอนเลย เพราะยาอาจะไม่ลงในกระเพาะ
ตัวอย่าง
ผู้ชายคนหนึ่งทานยา แอนตี้ไบโอติคส์และดื่มน้ำน้อยเกินไป
ยาจึงลงไปไม่ถึงกระเพาะ ยาค้างอยู่ที่ หลอดอาหารและเป็นเหตุให้หลอดอาหารอักเสบ
หกวันผ่านไปเค้ากินได้แค่นมเย็นกับ อาหารเหลว และนอนโรงพยายาลอีก 5 วัน
แพทย์เตือน ว่าอาการอาจจะแย่ลงและอาจมีผลข้างเคียง สุดท้ายเกิดอาการไตวายเฉียบพลัน
และ เสียชีวิตหลังเข้าโรงพยาบาลเพียง 2 สัปดาห์
เพราะฉะนั้น ต้องระวัง เมื่อกินยา เม็ดหรือแคปซูล อย่าดื่มน้ำอุ่นหรือ น้ำร้อน
น้ำผลไม้ หรือน้ำหวานทุกชนิดตามยาลงไป ทางที่ดีควรดื่มน้ำเย็นเท่านั้น
ถ้าคุณรู้สึกกระหายในลำคอหลังจากทาน ยา ให้ดื่มน้ำตามมาก ๆ และควรยืนหรือนั่งตัวตรงๆ
เมื่อทานยาอย่านอน ทันที
29 เรื่องเข้าใจผิด ของคนใช้รถ
อ่านเจอมาคับ เหมาะมากสำหรับมือใหม่เพิ่งมีรถเป็นของตัวเอง
โปรย : การใช้รถอย่างถูกต้อง และดูแลรักษาอย่างถูกวิธี
ช่วยให้ประหยัดและยืดอายุการใช้งานให้ยาวนานขึ้น
พฤติกรรมผิดๆ ของผู้ใช้รถ ซึ่งอาจส่งผลเสียกับรถยนต์ทันที หรือแสดงผลในภายหลัง
ส่วนใหญ่เกิดจากความเข้าใจผิด โดยเฉพาะใน 29 เรื่องต่อไปนี้
ผิด 1. "สตาร์ทแล้วออกรถได้เลยไม่ต้องอุ่นเครื่อง"
ถูก...อุ่นเครื่องยนต์สักหน่อยก่อนออกรถจะดีกว่า
เมื่อเครื่องยนต์ทำงานขณะที่ยัง "เย็น" อยู่ เช่น ขณะออกรถจากบ้านไปทำงานตอนเช้า
หรือติดเครื่องยนต์เมื่องานเลิกเพื่อกลับบ้าน ไอของเชื้อเพลิงที่เข้มข้นจะเกาะผนังกระบอกสูบ
และละลายปนกับฟีล์มน้ำมันเครื่องที่ฉาบผนังอยู่ ทำให้การหล่อลื่นแหวนลูกสูบกับผนังกระบอกสูบไม่เพียงพอ สร้างความสึกหรอในเครื่องยนต์มากกว่าปกติ
นอกจากนี้ทั้งเชื้อเพลิงที่ระเหยไม่หมด และไอน้ำที่เกิดจากการเผาไหม้ขณะเครื่องยังเย็นนี้
ยังละลายปนอยู่ในน้ำมันเครื่อง ทำให้น้ำมันเครื่องเสื่อมสภาพเร็วขึ้นอีกด้วย
ผิด 2. "รถใหม่สมัยนี้ ไม่ต้อง รันอิน"
ถูก...รถใหม่ทุกรุ่นทุกยี่ห้อ ต้องรันอิน
รถรุ่นใหม่ๆ แม้จะมีการควบคุมคุณภาพอย่างดีแล้วก็ตาม แต่เครื่องยนต์ใหม่ควรต้องผ่านการรันอิน
และเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องสักครั้งก่อนที่จะใช้งานอย่างเต็มที่ เพราะเศษโลหะที่ตกค้างอยู่ในระบบจะได้ถูกชะล้างออกไป
การรันอินนั้นทำได้ไม่ยาก โดยในช่วง 1,000 กม. แรก ไม่เร่งเครื่องยนต์อย่างรุนแรง
หรือใช้รอบเครื่องยนต์ที่สูงมากๆ ถ้าใช้รอบเครื่องไม่เกิน 3,000 รตน. ได้ก็จะดี
และเปลี่ยนน้ำมันเครื่องตามระยะที่ผู้ผลิตกำหนด พูดถึงเรื่องนี้ เคยมีผู้ใช้รถบางคน
ไม่นำรถเข้าศูนย์บริการเพื่อตรวจเชค โดยให้เหตุผลว่า เสียเวลา เปลี่ยนน้ำมันเครื่องทำที่ไหนก็ได้
อย่างนี้ "น่าเสียดาย" แทนจริงๆ เพราะถ้าเกิดความเสียหายกับเครื่องยนต์จะเรียกร้องเอากับใคร
ผิด 3. "ยกขาก้านปัดน้ำฝนขณะจอดช่วยยืดอายุใบปัด"
ถูก...สปริงในก้านที่ปัดน้ำฝนจะอ่อน และเสียเร็วขึ้น
ส่วนสำคัญที่ทำให้ที่ปัดน้ำฝนทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพประกอบด้วย ใบปัด
แผ่นยางซึ่งทำหน้าที่รีดน้ำจากกระจกบังลมหน้า ปกติจะมีอายุการใช้งานประมาณ 1 ปี
หากใช้นานกว่านั้นเนื้อยางจะแข็งตัวหรือมีการฉีกขาด ไม่ว่าจะยกไว้หรือไม่ก็ตาม
อีกส่วนคือ ก้านใบปัด ที่มีสปริงคอยดึงให้ใบปัดแนบสนิทกับกระจก ซึ่งรับแรงจากคันโยก และมอเตอร์
ตัวนี้มีราคาสูงกว่าใบปัด การยกก้านเมื่อจอดตากแดด สปริงจะถูกดึงให้ยืดออกตลอดเวลา
อายุการใช้งานสั้นลง ทำให้ต้องจ่ายแพงกว่าเดิมหลายเท่าถ้าต้องเปลี่ยนทั้งชุด
ผิด 4. "รถติดไฟแดงค้างเกียร์ D ไว้ดีกว่าเปลี่ยนเกียร์ว่าง"
ถูก...หยุดรถก็โอเค แต่ถ้าติดไฟแดงนานก็ต้องระวังชนคันหน้า
ในกรณีรถติดไฟแดง ผู้ขับรถที่ใช้เกียร์ธรรมดาจะปลดเกียร์ว่าง และเหยียบเบรคป้องกันรถไหล
คงจะไม่มีใครเหยียบคลัทช์ และเบรค ใส่เกียร์คาไว้ ให้เมื้อยขา ขณะที่ผู้ขับรถเกียร์อัตโนมัติ
กลับมีพฤติกรรมที่แตกต่างกัน กลุ่มแรก เหยียบเบรคโดยค้างเกียร์ไว้ที่ตำแหน่ง "D" กลุ่มที่ 2
เบรคเหมือนกัน แต่เลื่อนตำแหน่งคันเกียร์มาที่เกียร์ว่าง "N" กลุ่มสุดท้าย ดันคันเกียร์มาอยู่ที่ "P"
ไม่เหยียบเบรค
ถ้าติดไฟแดงนานๆ กลุ่มแรก ต้องระวังมากที่สุด เพราะถ้าขยับตัวแล้วเท้าหลุดจากแป้นเบรค
รถอาจพุ่งไปชนคันหน้า กลุ่มที่ 2 เบาหน่อยแค่เมื่อย ส่วนกลุ่มสุดท้าย สบายใจได้
แต่อาจจะไม่สะดวกกับการใช้งาน วิธีดีที่สุด คือ ใช้เกียร์ว่าง และดึงเบรคมือ
ผิด 5. "เดินทางไกลลมยางอ่อนดีกว่าแข็ง"
ถูก...ลมน้อย ยางมีโอกาสระเบิดได้มาก
คู่มือการใช้และดูแลรักษายางรถยนต์ ไม่ว่าจะเป็นค่ายไหน ก็แนะนำตรงกันว่า
ผู้ใช้รถควรเติมลมยางตามมาตรฐานที่ผู้ผลิตรถยนต์กำหนดไว้ และให้เพิ่มแรงดันลมยางให้สูงขึ้นอีก 2-
3 ปอนด์ เมื่อต้องเดินทางไกล
ลมยางที่อ่อนกว่ามาตรฐานกำหนด นอกจากจะทำให้หน้ายางด้านนอกสึกมากกว่าด้านในแล้ว
ยังอาจส่งผลเสียกับโครงสร้างยางได้ และมีโอกาสเกิด "ยางระเบิด"
มากกว่าหรือใกล้เคียงกับยางที่มีแรงดันลมยางเกินกำหนด
เพราะอุณหภูมิความร้อนที่เกิดจากการเสียดสี
ผิด 6. "ฝนตกใส่ขับ 4 ล้อเกาะกว่า...2 ล้อ"
ถูก...อย่าใช้ระบบขับเคลื่อนผิดประเภท จะได้ไม่ต้องเสียใจ
ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อนั้นอาจจะช่วยให้รถเกาะถนนมากกว่าระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ
แต่สำหรับรถที่ใช้ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อแบบพาร์ทไทม์หรือ "ตามต้องการ" ในรถพิคอัพ หรือพีพีวี
ที่มีชุดส่งกำลังแยกเพื่อส่งกำลังไปยังล้อหน้า กำลังจากล้อหลังจะถูกแบ่งมายังล้อหน้า อาการท้ายปัด
หรือล้อหลังฟรีก็จะน้อยลง แต่ไม่ได้หมายความว่าจะเกาะถนนดี เมื่อต้องเลี้ยวในความเร็วสูง
ล้อหน้าที่ถูกลอคให้หมุนจะเลี้ยวได้น้อยลง ทำให้ต้องใช้วงเลี้ยวที่กว้างขึ้น
จึงมีรถประเภทนี้หลุดโค้งให้เห็นกันเป็นประจำ
ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อแบบพาร์ทไทม์มีไว้เพื่อช่วยให้รถสามารถผ่านทางทุรกันดานได้ง่ายขึ้น
ต่างกับพวกที่เป็นฟูลล์ไทม์หรือ "ตลอดเวลา" ซึ่งมีวัตถุประสงค์ในการยึดเกาะถนน
ผิด 7. "ตั้งศูนย์ล้อหน้าอย่างเดียวก็พอ"
ถูก...ทุกล้อมีความสำคัญ ตั้งศูนย์ล้อควรทำทั้ง 4 ล้อ
เชื่อหรือไม่ว่า ศูนย์ล้อหลังมีความสำคัญพอๆ กับศูนย์ล้อหน้า หรืออาจจะมากกว่า
เพราะมุมที่ล้อหลังเอียงไปเพียงเล็กน้อย ก็อาจทำให้รถเสียสมดุลเมื่อเบรค หรือเลี้ยว
และทำให้รถเลี้ยวไปมากกว่าที่คิด
รถยนต์ส่วนใหญ่จะปรับตั้งศูนย์ล้อได้หน้า/หลัง ยกเว้นรถขับเคลื่อนหน้าบางรุ่นที่ปรับได้แต่เฉพาะล้อหน้าเพียงอย่างเดียว ไม่สามารถตั้งศูนย์ล้อหลัง ก็ต้องทำใจ
ผิด 8. "ต้องเปิดสัญญาณไฟฉุกเฉินเวลาข้ามแยก"
ถูก...เวลาข้ามแยก รอให้รถว่าง และไม่ควรเปิดสัญญาณไฟฉุกเฉิน
ถ้าคุณเปิดไฟฉุกเฉิน รถทั้งด้านซ้าย/ขวา ต่างก็จะเห็นสัญญาณไฟเลี้ยวเพียงด้านใดด้านหนึ่งเท่านั้น
รถทางขวาอาจจะจอดให้ไป แต่สำหรับทางซ้ายอาจคิดว่าคุณจะเลี้ยวซ้ายจึงไม่หยุดให้ อุบัติเหตุ
จึงเกิดขึ้น ด้วยความเข้าใจผิด จากการใช้สัญญาณไฟแบบผิดที่...ผิดทาง
ผิด 9. "ฝนตกหนัก หรือหมอกลงจัดต้องเปิดไฟฉุกเฉิน"
ถูก...อาจสร้างความสับสนให้ผู้ร่วมทาง ไฟฉุกเฉินใช้เวลาจอดฉุกเฉิน
ในสภาพอากาศที่ไม่ดี และมีทัศนวิสัยแย่มาก จนมองแทบไม่เห็นรถคันหน้า การชะลอความเร็ว
เปิดไฟหน้า และทิ้งระยะห่างจากรถคันหน้าให้มากขึ้น เป็นสิ่งที่ควรทำ
แต่การใช้สัญญาณไฟฉุกเฉิน ทำให้ที่วิ่งสวนทางมาเข้าใจผิดคิดว่ามีรถจอดเสียอยู่ทางซ้ายริมถนน
และหักหลบไปทางขวา ซึ่งเป็นไหลทาง กว่าจะเห็นอาจจะสายเกินไป ไม่ลงไปข้างทางก็อาจพุ่งข้ามช่องทางมาชน หรือถ้าหยุดรถก็ขวางทาง และเกิดอุบัติเหตุ
การใช้ สัญญาณไฟฉุกเฉิน หรือไฟผ่าหมาก ควรใช้เฉพาะเวลาที่รถเสีย และต้องจอดอยู่ริมถนน
เพื่อบอกให้เพื่อนร่วมทางที่สัญจรผ่านไปมา ใช้ความระมัดระวัง และชะลอความเร็วในจุดที่รถจอดเสียอยู่
ผิด 10. "ผ้าเบรคแข็ง หรือ ผ้าเบรคเนื้อแข็ง ไม่ดี"
ถูก...ไม่แน่เสมอไป ขึ้นอยู่กับความต้องการ
ความเข้าใจผิดๆ เรื่อง "ผ้าเบรค" ที่ว่าผ้าเบรคอ่อนดีกว่าแข็ง
เกิดจากบรรดาช่างซ่อมรถที่ไม่ได้อธิบายให้เจ้าของรถเข้าใจ
การผสมเนื้อผ้าเบรคให้ใช้งานได้ดี เป็นศาสตร์ชั้นสูง ใช้วัสดุนานาชนิด และมีสัดส่วนที่แตกต่างกัน
ซึ่งจะมีผลต่อคุณสมบัติของผ้าเบรค และมักจะขัดแย้งกันเอง ถ้าเน้นข้อดีข้อใดขึ้นมา
ก็มักจะมีข้ออื่นด้อยลงไป เช่น การใช้ส่วนผสมที่เบรคหยุดดี ก็จะกินเนื้อจานเบรคมาก หรือร้อนจัด
หรือไม่เนื้อผ้าเบรคก็สึกเร็ว พอทำให้สึกช้า ก็แข็ง เบรคไม่ค่อยอยู่ หรือมีเสียงรบกวน ส่วนผ้าเบรค
"เนื้ออ่อน" ที่มีจุดเด่นเรื่องไม่กัดกินเนื้อจานเบรค ก็จะมีข้อด้อยตรงจุดอื่น
ผิด 11. "เอนนอนขับแบบนักแข่ง...สบายที่สุด"
ถูก...นั่งขับแบบไม่ต้องชะเง้อ จะได้ไม่เมื่อย และไม่อันตราย
ท่าขับแบบนักแข่ง ตัวจริง ต่างกับการปรับเบาะเอนนอนขับมาก
การนั่งท่านี้จะรู้สึกว่าจะหลุดจากเบาะนั่งทุกครั้งที่เบรคแรงๆ แขนที่เหยียดตึงตลอดเวลา
นอกจากจะทำให้เมื่อยล้า ยังต้องยกตัวขึ้นเมื่อถึงเวลาที่ต้องเลี้ยว เพราะไม่มีแรงหมุนพวงมาลัย
และมองทางข้างหน้าไม่เห็น เช่นเดียวกับเวลาถอยหลังจอด สายเข็มขัดนิรภัยที่อยู่ในตำแหน่งสูงกว่าการนั่งขับแบบปกติ อาจจะรั้งคอแทนที่จะเป็นไหล เมื่อเกิดอุบัติเหตุ
ท่านั่งที่ถูกต้องเอาหลังพิงพนักจนสนิทแล้วเหยียดแขนข้างใดข้างหนึ่ง
ไปวางบนส่วนบนสุดของพวงมาลัยแล้ว ตรงกับข้อมือ ขาต้องสามารถเหยียบแป้นคลัทช์จนจม
โดยไม่ต้องเหยียดข้อเท้าสุดแบบนักบัลเลท์ ส่วนใต้ของขาอ่อนดันกับเบาะนั่งส่วนหน้า
จนรู้สึกว่าน้ำหนักตัวที่ลงตรงสะโพกพอดี และยังสัมผัสกับพนักพิง
ผิด 12. "นั่งชิดพวงมาลัยเพื่อให้มองเห็นหน้ารถ"
ถูก...อันตราย ตัวอาจกระแทกกับพวงมาลัยบาดเจ็บ
ผู้ที่นั่งใกล้พวงมาลัยเกินไป มักเป็นผู้ที่ไม่ค่อยให้ความสนใจกับรถนัก
และได้รับการสอนท่านั่งมาแบบผิดๆ ลำตัวที่อยู่ชิดกับพวงมาลัย
นอกจากจะทำให้หมุนพวงมาลัยไม่ถนัดเพราะแขนงอมากเกินไป ยังเพิ่มความเสี่ยงให้แก่ตัวผู้ขับ
ที่อาจจะบาดเจ็บจากการที่ลำตัวกระแทกกับพวงมาลัย และแรงระเบิดจากถุงลมนิรภัย
ผิด 13. "สอดมือหมุนพวงมาลัยถนัด เบาแรง และปลอดภัย"
ถูก...ไม่ถนัดจริง และอันตรายไม่ควรทำ
การหงายมือล้วงหรือสอดมือจับพวงมาลัย เพื่อเลี้ยวรถ เป็นการออกแรงดึงเข้าหาตัว
จึงทำให้รู้สึกว่าออกแรงน้อยกว่าการจับแบบคว่ำมือหมุน แต่การทำแบบนั้นมี "อันตราย" มาก
ถ้าหากล้อหน้าเกิดสะดุดก้อนหิน และเกิดมือหลุดจากพวงมาลัย ดึงมือออกมาไม่ทันก้านพวงมาลัยจะตีมืออย่างแรง
การจับพวงมาลัยที่ถูกต้องควรจับในตำแหน่ง 3 และ 9 นาฬิกา ซึ่งแขนจะงออยู่เล็กน้อย
และเพียงพอที่หมุนพวงมาลัยได้จนครบรอบ เมื่อต้องเลี้ยวรถมากกว่าหนึ่งรอบ
จะปล่อยมือที่อยู่ด้านหลัง เพื่อมาจับในตำแหน่งเดิม โดยทำในลักษณะนี้ทั้งเลี้ยวซ้าย/ขวา
ผิด 14. "เกียร์ ซีวีที ขับยากและกินน้ำมันกว่าเกียร์อัตโนมัติทั่วไป"
ถูก...ขับง่ายและประหยัดน้ำมันกว่าเกียร์อัตโนมัติทั่วไป
การไม่สามารถเข้าใจเหตุผล ก็กลายเป็นปัญหาใหญ่ ผู้ที่ขับรถใช้เกียร์ ซีวีที
บอกว่าขับแล้วรู้สึกเหมือนขับรถที่เกียร์ หรือระบบขับเคลื่อน "มีปัญหา" ให้ความรู้สึกที่ไม่ดี
โดยเฉพาะตอนที่ขับด้วยความเร็วคงที่แล้วกดคันเร่งเพิ่ม เกียร์จะเลือกอัตราทดที่เหมาะ
ทำให้ความเร็วเครื่องยนต์เพิ่มขึ้นทันที แต่ความเร็วรถยังเท่าเดิม ให้ความรู้สึกเหมือนรถคลัทช์ลื่น
การขับแบบประหยัดเชื้อเพลิง ให้เหยียบคันเร่งไม่ลึกนักขณะออกรถและรักษาระยะที่เหยียบไว้
ช่วงแรกเครื่องยนต์จะส่งกำลังผ่านทอร์คคอนเวอร์เตอร์ พอล้อรถหมุนเร็วพอสมควร
และไม่ต้องการความช่วยเหลือจากทอร์คคอนเวอร์เตอร์แล้ว ระบบต่อตรงส่งกำลังจากเครื่องยนต์ไปยังจานทรงกรวยตัวขับก็จะทำงาน จากนั้นระบบควบคุมจะลดระยะห่างของจานทรงกรวยคู่ที่เป็นตัวขับ เป็นการลดอัตราทด เพื่อเพิ่มความเร็วรถ โดยที่ความเร็วของเครื่องยนต์ค่อนข้างคงที่ ยกตัวอย่างเช่น ประมาณ 1,800 รตน. ความเร็วจะเพิ่มขึ้นตามสัดส่วนเดียวกับที่อัตราทดของเกียร์ลดลง จนได้ความเร็วประมาณ 60-70 กม./ชม. ซึ่งเป็นความเร็วสูงสุดของการเหยียบคันเร่งของเราเท่านี้ เยี่ยมไหมครับ ?
ผิด 15. "ต้องเปลี่ยนไส้กรองทุกครั้งที่เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง"
ถูก...ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนทุกครั้ง แต่ถ้าเปลี่ยนได้ก็ดี
ผู้ผลิตรถยนต์จากยุโรป แนะนำให้เปลี่ยนพร้อมกับการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องทุกครั้ง
แต่โรงงานผลิตรถยนต์ของญี่ปุ่น จำนวนไม่น้อย แนะนำให้เปลี่ยนไส้กรอง หรือหม้อกรองทุกๆ ครั้งที่ 2
ของการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง
ถ้าคำนึงถึงคุณภาพของน้ำมันเครื่องยุคปัจจุบันแล้ว น้ำมันเครื่องหมดอายุแล้ว
ในหม้อกรองน้ำมันเครื่องจำนวนหนึ่งปนเปื้อน ไม่ถึงกับให้โทษในด้านการหล่อลื่นหรือทำความสะอาดภายในเครื่องยนต์ แต่เมื่อคำนึงถึงราคาหม้อกรอง หรือไส้กรอง ซึ่งถูกกว่าราคาน้ำมันเครื่องแล้ว
ควรเปลี่ยนทุกครั้งเพื่อให้น้ำมันเครื่องสะอาดที่สุด และทำหน้าที่รักษาเครื่องยนต์ของเราจะดีกว่า
ผิด 16. "ควรเติม หัวเชื้อน้ำมันเครื่องเพื่อถนอมเครื่องยนต์"
ถูก...อาจจะหนืดไป แค่ใช้น้ำมันเครื่องดี มีคุณภาพ ก็เพียงพอแล้ว
เราแบ่งหัวเชื้อน้ำมันเครื่องได้เป็น 2 ประเภท คือ ประเภทที่ช่วยเพิ่มคุณภาพของน้ำมันเครื่อง
และประเภทที่ช่วยเพิ่มความหนืดของน้ำมันเครื่อง น้ำมันเครื่องคุณภาพสูงในปัจจุบันมีส่วนผสมของสารต่างๆ อยู่ในปริมาณและสัดส่วนที่เหมาะสม จึงไม่ควรใส่สารอื่นเข้าไปทำลายสัดส่วนสารเคมีเหล่านี้ให้เสียสมดุล และกลับให้โทษแก่เครื่องยนต์ ประเภทแรกจึงไม่จำเป็น
ส่วนหัวเชื้อน้ำมันเครื่องที่ช่วยเพิ่มความหนืด
อาจช่วยลดความสิ้นเปลืองน้ำมันเครื่องของเครื่องยนต์ที่หมดสภาพแล้วได้บ้าง
แต่เมื่อคำนึงถึงราคาแล้ว ก็ไม่น่าจะช่วยประหยัดได้ และเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุด้วย
วิธีที่ถูกต้องคือ การซ้อมใหญ่ หรือ โอเวอร์ฮอล เพื่อให้เครื่องยนต์กลับคืนสู่สภาพดีปกติ
ผิด 17. "เติมน้ำมันเครื่องคุณภาพสูงปนกับน้ำมันเครื่องทั่วไปจะได้คุณสมบัติที่ดีขึ้น"
ถูก...การผสมไม่ได้ช่วยให้คุณภาพดีขึ้น ใช้น้ำมันเครื่องคุณภาพมาตรฐานจะดีกว่า
การนำน้ำมันเครื่องคุณภาพสูงสุดสักครึ่งลิตร มาผสมกับน้ำมันเครื่องคุณภาพปานกลาง
ก็ไม่สามารถเพิ่มคุณภาพขึ้นมาได้ เอาเงินส่วนนี้ไปทำประโยชน์ส่วนอื่นจะดีกว่า
เช่นเดียวกับการเอาน้ำมันเครื่องคุณภาพต่ำมาเติมผสมลงไปน้ำมันเครื่องชั้นดีราคาสูง
ซึ่งจะทำให้ส่วนผสมของสารเพิ่มคุณภาพในน้ำมันเครื่องเสียสมดุลไป
เท่ากับน้ำมันเครื่องทั้งหมดคุณภาพต่ำไป
การเติมน้ำมันเครื่องใหม่เมื่อน้ำมันเครื่องเดิมใกล้จะถึงกำหนดเปลี่ยนถ่ายนั้น
ก็เป็นเรื่องที่ไม่ควรทำเพราะไม่คุ้มกับเงินที่จ่ายไปเพื่อแลกกับการใช้งานเพียงระยะสั้น
ทางที่ดีเปลี่ยนใหม่ทั้งหมดเลยจะคุ้มกว่า
ผิด 18. "ควรเปลี่ยนน้ำมันเครื่องใหม่ทุกๆ 5,000 กม."
ถูก...ขึ้นอยู่กับคุณภาพน้ำมันเครื่องและความต้องการของเครื่องยนต์
ผู้ผลิตรถยนต์แต่ละราย กำหนดมาตรฐานคุณภาพของน้ำมันเครื่องที่เครื่องยนต์แต่ละรุ่นต้องการใช้
อยู่ในคู่มือประจำรถ และกำหนดระยะเวลาการเปลี่ยนน้ำมันเครื่องไว้แตกต่างกันด้วย
รถยนต์ของค่ายญี่ปุ่น จะมีกำหนดเปลี่ยนน้ำมันเครื่องเป็นระยะทางที่สั้นกว่ารถยุโรป เช่น ทุกๆ 5,000
กม. และ 10,000 กม. ส่วนรถค่ายยุโรปส่วนใหญ่ที่เครื่องยนต์ใหญ่ใช้รอบเครื่องยนต์ต่ำ
และมาตรฐานคุณภาพของน้ำมันเครื่องไว้สูง เช่น ระดับ SJ สำหรับเครื่องยนต์เบนซิน
จะกำหนดระยะทางถึง 15,000 กม. หรือมากกว่านั้น
ปัจจุบันกำหนดเปลี่ยนน้ำมันเครื่องที่มีระยะมากที่สุด เป็นของรถ เปอโฌต์ คือ ทุกๆ 30,000 กม.
แต่อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนก่อนเวลาก็ไม่ได้ทำให้เสียหาย เพียงแต่เปลืองเงินกว่าที่ควร เท่านั้นเอง
ผู้ใช้รถควรใช้วิจารณญาณในการร่นระยะเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง ตามสภาพการใช้งาน เช่น
กรณีที่ใช้งานในสภาพการจราจรติดขัดเป็นส่วนใหญ่ เหลือ 70 % ที่กำหนดในคู่มือ
หรือถ้าต้องสตาร์ทเครื่องยนต์บ่อยๆ และ "รถติด" เป็นประจำด้วย เหลือเพียง 50 %
ถ้าใช้น้ำมันเครื่อง "ธรรมดา" คุณภาพสูง แล้วใช้งานหนักมาก เปลี่ยนทุก 5,000 กม.
ถ้าใช้น้ำมันเครื่องสังเคราะห์ 100 % เปลี่ยนทุก 10,000 กม. หากใช้งานเบากว่านี้
เพิ่มระยะทางได้ตามความเหมาะสม ไม่ใช่กำหนดที่ปั๊มน้ำมัน หรือศูนย์บริการ ฯ ลดทอน
เพราะต้องการขายน้ำมันเครื่อง
ผิด 19. "เครื่องยนต์ดีเซลมีระยะการเปลี่ยนน้ำมันเครื่องเท่ากับเบนซิน"
ถูก...อุณหภูมิภายในไม่เท่ากัน อายุการใช้งานก็ต่างกันด้วย
การเผาไหม้ของเครื่องยนต์ดีเซล ก่อให้เกิดเขม่ามากกว่าในเครื่องยนต์เบนซิน
ผงเขม่าขนาดเล็กสามารถลอดผ่านกระดาษกรองของหม้อกรองน้ำมันเครื่องได้
เมื่อสะสมแขวนลอยอยู่ในน้ำมันเครื่องมากขึ้น จะทำให้น้ำมันเครื่องมีค่าความหนืดสูงขึ้น
คุณสมบัติในการหล่อลื่นจึงลดลง
เครื่องยนต์ดีเซลระบบฉีดตรงเข้าห้องเผาไหม้
หรือไดเรคท์อินเจคชันยุคใหม่มีเขม่าน้อยกว่าแบบพรีแชมเบอร์มาก เราจึงสังเกตได้ว่า
กำหนดเปลี่ยนน้ำมันเครื่องของเครื่องยนต์แบบนี้ใกล้เคียงกับเครื่องยนต์เบนซินแล้ว
ผิด 20. "น้ำมันเครื่องสังเคราะห์ 100 % คุ้มกว่าน้ำมันเครื่องธรรมดา"
ถูก...ราคาแพงกว่าใช้ได้นานกว่า แต่จะคุ้มหรือไม่อยู่ที่ใจ
จุดเด่นแรกของน้ำมันเครื่องสังเคราะห์อยู่ที่ค่าความหนืดต่ำที่อุณหภูมิต่ำ จึงไหลไปหล่อลื่นส่วนต่างๆ
ของเครื่องยนต์ได้อย่างรวดเร็ว ตั้งแต่เริ่มติดเครื่องยนต์ในสภาพเย็นจัด เช่น ต่ำกว่า 0 องศาเซลเซียส
ซึ่งสภาวะเช่นนี้ไม่มีในประเทศไทย
ข้อดีประการที่ 2 คือทนต่อความร้อนสูงที่ผนังกระบอกสูบได้ดีกว่า
จึงมีอัตราการระเหยเป็นไอได้น้อยกว่าน้ำมันเครื่อง "ธรรมดา"
อัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเครื่องอาจน้อยกว่าเล็กน้อย
จุดเด่นอีกข้อของน้ำมันเครื่องสังเคราะห์ คือ การมีค่าดัชนีความหนืดสูง จึงไม่ "ใส"
เกินไปเมื่อถูกความร้อนจัด น้ำมันเครื่องสังเคราะห์จึงมีสารปรับดัชนีความหนืดผสมอยู่ในอัตราที่น้อยกว่าน้ำมันเครื่องธรรมดา เนื่องจากสารปรับดัชนีความหนืดนี้เสื่อมสภาพได้ง่ายตามอายุใช้งาน
น้ำมันเครื่องสังเคราะห์จึงมีอายุใช้งานยาวนานกว่าน้ำมันเครื่องธรรมดามาก
เมื่อเปรียบเทียบราคาน้ำมันเครื่องสังเคราะห์ 100 % กับราคาน้ำมันเครื่อง "ธรรมดา"
ระดับคุณภาพสูงสุดน้ำมันเครื่องสังเคราะห์จะมีราคาสูงกว่าราว 2 ถึง 4 เท่า จึงไม่สามารถกล่าวได้ว่า
"คุ้มกว่าน้ำมันเครื่องธรรมดา" ยกเว้นพวกชอบใช้ของแพง ได้จ่ายเงินมากแล้วมีความสุข
ผู้ที่ต้องการถนอมให้เครื่องยนต์สึกหรอน้อยที่สุด โดยไม่คำนึงถึงราคาว่าคุ้มหรือไม่
ผิด 21. "ใช้น้ำมันเครื่องราคาถูกแต่เปลี่ยนบ่อยๆ ช่วยถนอมเครื่องยนต์ได้ดีที่สุด"
ถูก...ถ้าเจอน้ำมันเครื่องปลอม หรือไม่มีคุณภาพ อาจทำให้เครื่องยนต์เสียหาย
ไม่ควรนำน้ำมันเครื่องราคาถูกมาเปลี่ยนบ่อยๆ เช่น ทุก 3,000 หรือ 4,000 กม.
แทนน้ำมันเครื่องมาตรฐานที่ผู้ผลิตกำหนด เพราะในประเทศเราที่ไม่มีหน่วยงานควบคุม
และตรวจสอบคุณภาพของน้ำมันเครื่องอยู่เลย แม้น้ำมันเครื่องระดับคุณภาพสูงที่เราซื้อมา
ก็อาจเป็นของปลอมที่กรองและฟอกสีมาจากกากน้ำมันเครื่องใช้แล้วได้
วิธีถนอมเครื่องยนต์ที่ดีที่สุด คือ เลือกใช้น้ำมันเครื่องคุณภาพสูงสุด ก่อนอื่นต้องเลือก "ยี่ห้อ"
และสถานที่จำหน่ายที่น่าไว้วางใจได้ เลือกระดับคุณภาพ แล้วจึงดูระดับความหนืด
หรือความข้นของน้ำมันเครื่องที่เหมาะสมกับอุณหภูมิเฉลี่ยของเมืองไทย เช่น 10W-40/15W-40/15W-
50 หรือ 20W-50
ระดับคุณภาพที่รู้จักกันแพร่หลายในประเทศไทย คือ ระดับคุณภาพตามมาตรฐานของ API
(AMERICAN PETROLEUM INSTITUTE) ถ้าเป็นรถใช้เครื่องยนต์เบนซิน ควรใช้น้ำมันเครื่อง
ระดับคุณภาพ SJ หรือ อย่างน้อย SH ถ้าเป็นรถใช้เครื่องยนต์ดีเซล ควรเลือกระดับ CG - 4
หรืออย่างน้อย CF - 4
ผิด 22. "เปลี่ยนแบทเตอรีให้ลูกใหญ่ จะได้สตาร์ทง่าย"
ถูก...แบทเตอรีขนาดไหนก็ใช้ไฟเท่าเดิม ใหญ่ไปก็หนักรถ
การใช้แบทเตอรีที่มีขนาดใหญ่กว่าเดิม ขณะที่องค์ประกอบอื่นๆ ทั้งเครื่องยนต์ ไดสตาร์ท และไดชาร์จ
ยังมีขนาดเท่าเดิมไม่เปลี่ยนแปลง นอกจากจะเป็นความสิ้นเปลืองที่เกินกว่าความจำเป็น
เพราะความต้องการไฟในการสตาร์ทเครื่องยนต์ยังเท่าเดิมแล้ว ยังอาจส่งผลเสียกับไดชาร์จในอนาคต
แบทเตอรีที่มีขนาดใหญ่มากเกินไป
ไม่เพียงต้องทำให้เจ้าของรถต้องดัดแปลงแทนวางแบทเตอรีใหม่เท่านั้น
ยังอาจส่งผลให้ไดชาร์จทำงานเต็มกำลังตลอดเวลา เพื่อบรรจุไฟเข้าไปเก็บในแบทเตอรี
ซึ่งจะหยุดก็ต่อเมื่อไฟเต็ม
ผิด 23. "ดับเครื่องยนต์ และปิดพัดลมแอร์ จะช่วยให้แอร์ไม่เสียเร็ว"
ถูก...ควรปิดคอมเพรสเซอร์แอร์ ก่อนดับเครื่อง ช่วยยืดอายุตู้แอร์
ระบบทำความเย็นทั้งภายในรถและอาคาร อาศัยหลักการถ่ายเทความเย็น และระบายความร้อน
ซึ่งตู้แอร์ หรือคอยล์เย็น จะมีสารทำความเย็นบรรจุอยู่ภายใน โดยมีพัดลมทำหน้าที่เป่าลม
การปิดพัดลมหลังดับเครื่อง ความเย็นยังคงอยู่ภายในระบบ ตู้แอร์จึงชื้น
และกลายเป็นที่สะสมฝุ่นละออง ซึ่งจะทำให้ลมผ่านได้ไม่สะดวก เกิดการอุดตัน และตู้รั่ว
การปิดคอมเพรสเซอร์ หรือปิดสวิทช์ AC ก่อนดับเครื่องยนต์อย่างน้อย 5 -10 นาที
จะช่วยไล่ความชื้นในตู้แอร์ ไม่เป็นที่สะสมฝุ่น นอกจากจะช่วยยืดอายุตู้แอร์
ยังช่วยลดกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ ที่มักเกิดพร้อมๆ กับความชื้นอีกด้วย
ผิด 24. "แกสโซฮอลสิ้นเปลืองกว่าเบนซิน 95 เพราะแอลกอฮอล์ระเหยได้ง่ายกว่า"
ถูก...แอลกอฮอล์มีความหนาแน่นของพลังงาน ต่ำกว่าของเบนซิน
การที่แกสโซฮอลสิ้นเปลืองกว่าเพราะแอลกอฮอล์มีพลังงานสะสมในตัวมันน้อยกว่า
เมื่อเทียบมวลเท่ากัน เช่น มีพลังงานกี่กิโลแคลอรีต่อมวลหนึ่งกิโลกรัมเท่ากัน
หรือกล่าวได้ว่าแอลกอฮอล์มีความหนาแน่นของพลังงาน หรือ ค่าความร้อน (HEATING VALUE)
ต่ำกว่าของเบนซิน เกี่ยวกับการระเหยง่ายอย่างที่หลายคนคิด
ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจน คือ น้ำมันเบนซินซึ่งระเหยง่ายมาก และน้ำมันดีเซลซึ่งระเหยยากมาก
แต่มีความหนาแน่นของพลังงานหรือค่าความร้อนพอๆ กัน
และมากกว่าของแอลกอฮอล์ประมาณเท่าตัว
ผิด 25. "เติมน้ำยาหล่อเย็นจะทำให้หม้อน้ำรั่ว"
ถูก...น้ำยาเติมหม้อน้ำช่วยลดตะกอนและควบคุมอุณหภูมิของน้ำ
น้ำยาเติมหม้อ หรือน้ำยาหล่อเย็น (COOLANT)
ถูกมองว่าเป็นตัวการทำให้หม้อน้ำและปั๊มน้ำรั่วอยู่เสมอ
นั่นก็เพราะผู้ใช้รถจะพบปัญหาเหล่านี้หลังจากที่ได้เติมน้ำยาหล่อเย็น
ซึ่งในความเป็นจริงเกิดจากระบบหล่อเย็นของรถขาดการบำรุงรักษามาเป็นเวลานาน
หรือใช้น้ำที่มีค่าเป็นกรดเป็นด่างมากเกินไป จนเกิดการผุกร่อน
ดังนั้นเราควรบำรุงรักษาหม้อน้ำด้วยการเปลี่ยนถ่ายน้ำยาในระบบหล่อเย็นปีละครั้ง
รวมทั้งทำความสะอาดถังพักน้ำด้วย ส่วนการผสมน้ำยาหล่อเย็น ควรทำตามอัตราส่วนที่ผู้ผลิตระบุไว้
ผิด 26. "รถที่ใช้จานเบรค 4 ล้อปลอดภัยกว่ารถที่ใช้ดุมเบรคหลัง"
ถูก...ไม่แน่ ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของการใช้งาน
หลายคนเข้าใจผิดคิดว่าจานเบรคใช้ได้ดีกับรถทุกรุ่นทุกขนาด แม้ว่าคุณสมบัติที่ดีของจานเบรคคือ
ระบายความร้อนได้เร็ว ส่วนใหญ่ผู้ผลิตรถจึงใช้กับล้อหน้าที่ผ้าเบรคจับตัวจานเบรคแทบจะตลอดเวลา
ดุมเบรคที่ระบายความร้อนได้ช้ากว่าเพราะมีฝาครอบ แต่มีพื้นที่สัมผัสมากกว่าจานเบรคและไม่มีปัญหาเบรคลอคเหมือนจานเบรคใช้ในล้อหลัง รถที่ใช้งานแบบทั่วไป รวมทั้งรถที่มีระบบเอบีเอส
ซึ่งวิศวกรผู้ผลิตรถยนต์จะเลือกใช้จานเบรคตามความเหมาะสม
การที่เจ้าของรถนำรถไปดัดแปลงใช้จานเบรคในล้อหลัง ต้องระวัง
เพราะหากล้อหลังหยุดก่อนล้อหน้าเมื่อเบรค อาจทำให้รถหมุนได้
ผิด 27. "เปลี่ยนกรองเปลือย และหัวเทียน ทำให้รถแรงขึ้น"
ถูก...ช่วยอะไรไม่ได้มาก ไม่คุ้มกับเงินที่จ่ายไป
การเปลี่ยนกรองอากาศมาเป็นแบบกรองเปลือย ที่ไม่มีกล่องป้องกันฝุ่น และท่อนำอากาศ
อาจจะช่วยให้อากาศเข้าได้สะดวกขึ้น แต่ความหนาแน่นของมวลอากาศน้อยลงเพราะอุณหภูมิความร้อนภายในห้องเครื่องยนต์ ซึ่งปริมาณอากาศกับห้องเผาไหม้เท่าเดิม จึงให้กำลังตกลงเมื่อเครื่องร้อน อีกทั้งมีฝุ่นละอองมาก ทำให้ต้องล้างหรือทำความสะอาดบ่อยๆ
การใช้หัวเทียนใหม่ช่วยให้การจุดระเบิดสมบูรณ์
แต่ไม่ได้เพิ่มกำลังเครื่องยนต์ให้สูงกว่ามาตรฐานผู้ผลิตรถยนต์ได้กำหนดไว้
ผิด 28. "ใส่กรองอากาศไม่ต้องเปลี่ยน แค่เป่าลมก็ใช้ได้แล้ว"
ถูก...เปลี่ยนใหม่ จะช่วยให้ประหยัดค่าน้ำมันไปได้นับพันบาท
การใช้ลมเป่าใสกรองอากาศที่นิยมทำกัน เมื่อมีฝุ่นติดเต็ม จนมองไม่เห็นสีเดิม วิธีนี้ช่วยให้ฝุ่นละอองเบาบางลง อากาศไหลผ่านได้ดียิ่งขึ้น แต่ถ้าเป่าแรงเกินไปแผ่นกรองอาจเสียหายจนใช้งานต่อไม่ได้
เพราะมีรูกว้างจนฝุ่นขนาดใหญ่สามารถผ่านเข้าไปได้
คิดแล้วไม่คุ้ม ยอมจ่ายเงินซื้อของใหม่มาใส่จะคุ้มกว่า การล้างคาร์บูเรเตอร์ หรือหัวฉีด
แถมยังประหยัดค่าน้ำมันทางอ้อม อีกด้วย
อยากมีเว็บไซต์ ดอทคอม กับเขา จะต้องทำอย่างไรบ้าง
Domain Name คืออะไร ตอบง่าย ๆ ก็คือชื่อของเว็บไซต์ นั่นเอง เช่นที่นี่ ก็จะชื่อ http://www.com-th.net เป็นต้น สำหรับท่านที่ต้องการสร้างสรรค์ผลงาน นำออกมาแสดงโดยผ่านทาง อินเตอร์เน็ต ก็จะมีทางเลือกให้ 2 ทาง ทางแรกคือใช้ชื่อเว็บไซต์ ที่มีบริการแจกฟรีต่าง ๆ โดยที่จะใช้ชื่อเว็บไซต์ ที่อาจจะยาว ๆ สักหน่อย เช่น http://www.geocities.com/website หรือ http://website.hypermart.net เป็นต้น
อีกทางเลือกหนึ่งก็คือการขอจดทะเบียนชื่อเว็บไซต์ของท่านเอง เช่น http://www.yourname.com ซึ่งปัจจุบัน ราคาค่าบริการค่อนข้างจะถูกลงมามากแล้ว และมีทั้งที่เปิดให้บริการในประเทศไทยของเราด้วย แต่ปัญหาที่ถกเถียงกันอย่างมาก คือเกิดการแย่งชิงชื่อ Domain Name กัน โดยเฉพาะถ้าหากเป็นชื่อที่สวย ๆ หรือบางครั้งผู้รับจดทะเบียนอาจจะใช้ชื่อเขาเองเป็นเจ้าของ แทนที่จะเป็นชื่อของผู้ขอจดทะเบียน ซึ่งอันนี้ก็ขึ้นอยู่กับความรับผิดชอบของแต่ละคนด้วย
ดังนั้น ขอแนะนำท่านที่ต้องการจะจดทะเบียนชื่อ Domain Name ว่าหากเป็นชื่อเว็บไซต์แบบธรรมดาทั่ว ๆ ไป ควรที่จะหาจดทะเบียนผ่านตัวแทน ในประเทศไทยดีกว่า เพราะว่าราคาจะถูกกว่า (ประมาณ 600 บาท/ปี) และมีการ Support ต่าง ๆ ที่เป็นคนไทยด้วย แต่ถ้าท่านคิดว่า ชื่อที่จะจดทะเบียนนั้น สวยมาก ๆ และไม่ไว้ใจผู้ให้บริการในประเทศไทย กลัวโดนแย่งชิงตัดหน้าไปก่อน (แบบที่ได้ยินกันบ่อย ๆ) ก็อาจจะใช้วิธีไปจดกับต่างประเทศแทนก็ได้ ซึ่งค่าบริการจะอยู่ที่ประมาณ 35$ /ปี หรือบางที่ อาจจะถูกกว่านี้ อันนี้ก็พิจารณาตัดสินใจกันเองนะครับ
ในปัจจุบันนี้ ชื่อของโดเมนเนม ที่เป็นที่นิยมจดทะเบียนกันมาก จะแบ่งออกเป็นหลายแบบดังนี้
• .com .net และ .org เป็นนามสกุลของ domain name ที่นิยมกันและเป็นสากล
• .ws .to .tv .cc .st และอื่น ๆ เป็นนามสกุลของ domain name บางประเทศ แต่นำมาเปิดให้คนทั่วไปจะทะเบียนได้
• .co.th .in.th .ac.th .net.th และอื่น ๆ ที่ลงท้ายด้วย .th เป็นของประเทศไทยเรา อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมที่ http://www.thnic.net ครับ
• .biz .info .name และอื่น ๆ อีก 7 ชื่อ เป็นนามสกุลที่กำลังจะเปิดใหม่ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมที่ http://www.icann.org ครับ
สรุป สิ่งจำเป็น ในการมีเว็บไซต์ ดอทคอม เป็นของตัวเอง
• ชื่อ domain name ต่าง ๆ ที่ไปทำการจดทะเบียนไว้
• พื้นที่วางเว็บเพจหรือ Host ซึ่งอาจจะใช้ของฟรี หรือเสียเงินเช่าก็ได้
• จากนั้น ก็ทำการตั้งให้ชื่อ domain name กับ Host รู้จักกัน ก็ใช้งานได้แล้ว
ก่อนที่จะทำการจดทะเบียนชื่อเว็บไซต์ สิ่งแรกที่จะต้องทำก็คือ หาชื่อที่ต้องการจะจดก่อน แนะนำให้ไปค้นหาที่ http://www.whois.net เพราะว่ามีการค้นหาที่ง่ายและสะดวกในการเลือกชื่อของเราด้วย เมื่อได้ชื่อที่ต้องการแล้ว ต่อไปคือการวางแผนที่จะใช้ host สำหรับฝากวางเว็บเพจ ว่าจะไปเช่าที่ไหน หรือจะใช้ของฟรีที่มีให้บริการ ก็ลองติดสินใจในจุดนี้ก่อนว่าจะเลือกอย่างไร (หากเป็นเว็บที่ทำเล่น ๆ ก็ใช้ของฟรีก็ได้ครับ เช่น hypermart.net โดยจะมี banner แถมมานิดหน่อย แต่ก็ประหยัดเงินไปได้แยะ) สิ่งแรกที่ต้องการจาก host ก็คือ Name Server และ DNS ของ host นั้น ๆ เพราะว่าค่าของ Name Server และ DNS นี้จะต้องนำไปใช้เพื่อให้ชื่อ Domain Name ของเรานั้น สามารถใช้งานได้ถูกต้อง ซึ่งถ้าหากเราเป็นเจ้าของ Domain Name แล้ว จะสามารถเปลี่ยนไปใช้ host ของที่อื่น ๆ เมื่อไรก็ได้ ตัวอย่างของ Name Server ของ hypermart.net ก็ดังนี้
Primary Server : ns1.hypermart.net IP = 206.253.222.65
Secondary Server: ns2.hypermart.net IP = 206.253.222.66
สิ่งสำคัญ หลังจากที่ทำการจดทะเบียนชื่อ Domain Name เสร็จแล้วก็คือ ชื่อที่แสดงความเป็นเจ้าของ และชื่อของผู้ติดต่อ หรือทำการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับ Domain Name นั้น ๆ ซึ่งจะมีอยู่ 3 แบบดังนี้
1. Administrative Contact คือชื่อเจ้าของ Domain Name
2. Technical Contact ชื่อที่ใช้สำหรับการติดต่อทางด้านเทคนิค
3. Billing Contact ชื่อสำหรับการติดต่อในการออกบิล
ถ้าเป็นการจดทะเบียนเอง ทั้ง 3 ชื่อนี้จะเป็นของเราหมด แต่ถ้าหากจดโดยผ่านตัวแทนต่าง ๆ ส่วนใหญ่แล้ว มักจะใส่ชื่อ Technical Contact เป็นผู้จดทะเบียน หรือผู้ที่ทำหน้าที่จัดการต่าง ๆ ให้เรา อันนั้นก็คงจะไม่เป็นไรมาก แต่ที่สำคัญคือ ชื่อของ Administrative Contact ต้องเป็นชื่อเรานะครับ ถ้าจดผ่านคนอื่นก็ต้องดูให้ดี ๆ ด้วย เมื่อเตรียมทุกอย่างได้พร้อมแล้ว ก็เริ่มต้นการจดทะเบียนได้ หากใครคิดที่จะทำการจดผ่านตัวแทนในประเทศไทย ก็คงจะง่าย เพราะว่าให้เขาจัดการทั้งหมดให้เราได้เลย และส่วนใหญ่ก็ราคาจะถูกกว่าด้วย
ถ้าหากท่านใดต้องการดูตัวอย่าง วิธีการจดทะเบียนกับที่ต่าง ๆ ลองหาดูจากหัวข้ออื่น ๆ ในเรื่อง เทคนิคการสร้างเว็บไซต์ ในรูปแบบต่าง ๆ ได้เลยครับ
Link สำหรับการจดทะเบียนชื่อ Domain Name ต่าง ๆ
• http://www.networksolutions.com
• http://www.register.com
• http://www.dotster.com
• http://www.godaddy.com
• http://www.checkdomain.com
• http://www.directnic.com
• http://www.internic.net
• http://d-n-s.com/it8.html
• http://www.whois.net
• http://www.siamdomain.com
• http://domainatcost.com *ของไทย 600.- บาท/ปี
Link สำหรับให้บริการ Free Hosting ต่าง ๆ ที่ใช้ชื่อ domain name ได้
• http://www.domaindlx.com 15MB. ASP
• http://www.freeservers.com 20MB.
• http://www.freewebsites.com 50MB.
• http://www.webhostme.com 20MB. ASP
• http://www.virtualave.net 50MB. CGI (ต้องใช้บัตรเครดิต)
• http://www.hypermart.net 50MB. CGI (ต้องใช้บัตรเครดิต)
• http://www.netfirms.com 25MB. CGI
Link สำหรับให้บริการเช่า Hosting แบบเสียเงิน (บางที่ก็รับจดชื่อด้วย)
• http://www.hostdozy.com
• http://www.supersavehost.com
• http://www.thaihosty.com
• http://www.thaihomepages.com
• http://www.siaminet.com
• http://www.108web.com/thai
• http://www.cyberhost-th.com
• http://www.numberonehosting.com
• http://www.thaizone.net
• http://www.ztwice.com
• http://www.thaiserver.com
• http://www.netcreatic.com
*** รายละเอียดต่าง ๆ ตามลิงค์ข้างบนนี้ อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไข ดังนั้น ตรวจสอบก่อนด้วยนะครับ
Tuesday, March 25, 2008
มุขเสียวๆเอาไว้จีบสาว
1.good night คนดี ขอให้นอนหลับฝันดี คืนนี้จะไปเข้าฝัน
2.พี่ไปส่งมั้ย น้องต้องเดินอีกไกลนะ กว่าจะพ้นใจพี่
3.เรื่องเนี้ยะ เริ่มต้นด้วยร้าย แต่ลงท้ายด้วยรักนะจ๊ะ
4.ไข่พะโล้หนะ สีดำ แต่คนทำอะ หัวใจสีชมพู
5.ติดกาแฟ เลิกได้ ติดบุหรี่ เลิกได้ แต่ติดใจเธอ เลิกไม่ได้จริงๆ
6.มีใจแค่1ดวง ครึ่งแรกบอกว่า คิดถึง อีกครึ่งหนึ่ง บอกว่า รัก
7.ที่หายหน้าไป ไม่ใช่ไม่รัก แต่หมอให้พัก ลดน้ำตาล ในหัวใจจ๊ะ
8.ฉันเกิดมา อาภัพ ต้องอยู่แบบ หลบๆซ่อนๆ ก็ซ่อนใน หัวใจเธองัย
9.หัวใจไม่ว่าง เหมือนเดิม เพราะมีเธอ มาเพิ่มเติม ในใจ
10.อยากรู้มั้ย ฉันรักใคร ส่องกระจกสิ จะได้คำตอบ
11.ยังตัดสินใจไม่ได้ใช่ไหม เอางี้โยนหัวก้อยกัน ถ้าออกหัว เธอมาเป็นแฟนฉัน ถ้าออกก้อย ฉันจะยอม
เป็นแฟนเธอ
12.อยากจะเขียนคำว่ารักตัวเท่าบ้าน คงต้องหากระดานแผ่นใหญ่ๆ อันสมุดเล่มนี้มันเล็กไป คงต้องเอา
หัวใจมาเขียนแทน
13.ไม่ได้คิดถึงเธอทุกนาที แต่คิดถึงเธอตลอดที่มีลมหายใจ
14.ถ้าพรุ่งนี้ผมตายไปก็คงไม่แปลก เพราะชีวิตผมที่เกิดมา มีหน้าที่เพียงแค่มาพบคุณในวันนี้เท่านั้นเอง
15.ผมมันคนใจแคบ ในนั้นเลยมีที่ว่างพอสำหรับคุณเพียงคนเดียว
16.เป็นการยากที่จะเข้าใจในคำว่ารัก แต่ยากยิ่งนักหากจะรักอย่างเข้าใจ
17.ผมมันเป็นคนไม่มีหัวใจ ก็เพราะหัวใจของผมนั้นดันไปอยู่ที่คุณ
18.ความรักของเราเหมือนเส้นขนาน แม้จะไม่มีวันมาบรรจบกัน แต่ก็จะเคียงคู่กันตลอดไป
19.ถึงผมจะเป็นคนหลายใจ แต่ในทุก ๆ หัวใจก็มีแต่เธอ
20.โทรศัพท์มือถือยิ่งโทรยิ่งกินเงิน แต่โทรหาคุณยิ่งโทรยิ่งกินใจ
21.ผมขอถามทางคุณหน่อยได้ไหมครับ? ทางไปหัวใจคุณ
22.ช่วยกดลิฟท์ให้หน่อยครับ? ผมจะไป ชั้น..รักเธอ
23.คุณได้ยินเสียงอะไรมั๊ยครับ....เสียงหัวใจผมมันบอกว่ารักเธอ
24.เอ่อ..ไม่ทราบว่าเราเคยเจอกันที่ไหนมาก่อนรึป่าวครับ อ๋อ คงจะเป็นในฝันของผม
25.ทำไมวันนี้ท้องฟ้าไม่สวยเหมือนทุกวัน คงเป็นเพราะคุณสินะ
26.ผมชักอึกอัดแล้วสิ ก็คุณเล่นเข้ามาเบียดอยู่ในใจผมตลอดเวลาเลย
27.เดินดีๆนะครับ...ระวังจะสะดุดรักผม
28.ตั้งแต่ผมได้รู้จักกับคุณ ทำให้ผมได้เจออะไรบางอย่าง เจอละไม ใจละเมอ
29.เผอิญผมมันพวกคนใจแคบหนะครับ ในนั้นเลยมีที่ว่างให้คุณได้เพียงคนเดียว
30.ความรักของผมกับคุณเหมือนเส้นขนาน แม้มันอาจจะไม่มีวันมาบรรจบกัน แต่มันจะเคียงคู่กันตลอดไป
31.ถึงผมจะเป็นคนหลายใจ แต่ในทุกๆหัวใจก็มีแต่คุณ
32.ผมทำให้คุณได้ทุกอย่าง ยกเว้นแค่เหาะขึ้นไปบนฟ้า กับการไม่รักคุณ
33.ผมมันเป็นคนไม่มีหัวใจ... เพราะผมเอาให้คุณไปแล้ว ตั้งแต่วันที่เราพบกัน
34.เมื่อคืนที่บ้านไฟดับ แต่ผมไม่ต้องใช้ไฟฉาย หรือเทียนเลยครับ เพราะแค่นึกถึงคุณ โลกของผมก็สว่าง
ไสวไปหมดแล้ว
35.ตลอดชีวิตที่ผ่านมาของผม.... คุณไปอยู่ไหนมาครับ?
36.ผมยอมอายุสั้นลงไป 1 ปี... แลกกับการคุยกับคุณ 1 นาที
37.ผมไม่หวังอะไร ขอแค่ได้เห็นหน้าคุณ ถึงต้องอายุสั้น ตายไปต่อหน้าคุณ ผมก็ยอม
38.รู้ตัวไหม ว่าคุณคือผู้หญิงคนแรก ที่เห็นแล้วผมนึกอยากปลูกต้นรัก
39.คุณทำให้ขาผมแพลง เพราะตกหลุมรักคุณไม่เป็นท่า
40.ไม่สบายไป x-ray หัวใจมา หมอบอกว่าข้างในหัวใจมีแต่เธอ
41.ร้อนจัง อาบน้ำ ก็ยังไม่หาย นอนไม่หลับกระสับกระส่าย ก็ยังไม่หายคิดถึงเธอ
42.โทษครับ กี่โมงแล้วครับ วันเวลาของผม มันหยุดไปหมดเมื่อพบคุณ
43.ถ้าคิดถึงคุณ..แล้วต้องเสียตังค์ครั้งละบาท ผมคงหมดเนื้อหมดตัวภายในวันเดียว
44.คุณท่าทางจะมีโชคนะ ผมเป็นหมอดู ดูดวงจากเบอร์โทรศัพท์ บอกเบอร์มาสิครับ ผมจะทายให้
45.ผมคงต้องไปรับลอตเตอรี่มาขายซะแล้ว เพราะความรักของคุณมันทำให้ผมตาบอด
46.ถ้าเธอเป็นโคลน ฉันจะยอมเป็นควาย จะได้จมปลักรักเธอตลอดไป...
47.เวลาเห็นหน้าคุณทีไร ผมมักจะเป็นโรคชักทุกทีเลยอะ...ชักใจอ่อน
... สุดท้าย อ่านกันจบก้อต้องเล่นมุกนี้เลย ..
"น้ำเน่า" .. ถึงน้ำจะเน่า .. ก้อยังเห็นเงาจันทร์ นะคร้าบบบบบ
75 ความเสี่ยว ฮาดี
1.เธอไม่ต้องใช้กบเหลาดินสอหรอกนะ .............เพราะคำพูดและหน้าตาของเธอแหลม
พอที่จะแทงให้ใจฉันอ่อนยวบแล้ว
2.อยากมี พาวเวอร์พอยต์ ............จะได้พรีเซ้นความรักของฉันที่มีต่อเธอได้
3.ตายแล้ว เธอรู้ไหม เธอทำให้ขยะล้นโลกนะ...............เพราะหัวใจใช้แล้วของ
ฉันที่เธอไม่ต้องการมันแล้วไม่สามารถรีไซเคิลได้
4.เธอไม่ต้องแปลกใจหรอกนะที่หาชื่อตัวเองในพจนานุกรมไม่เจอ...........เพราะมัน
อยู่ในใจฉัน
5.ว่ากันว่าถอดแสคว์รูดน่ะมันถอดยากนะ........ แต่ฉันว่าถอดเธอออกจากใจฉันมัน
ยากยิ่งกว่าเสียอีก
6.เฮ้อออ เรามีแต่พาสเวิดเข้าสู่อินเตอร์เนต........... แต่ไม่มีเอคเซสเข้าสู่
หัวใจเธอเลย
7.พรมแดนที่มนุษย์สร้างขึ้น ไม่ว่าจะพรมแดนที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ หรือ ก็
ไม่มีพรมแดนไหนมาคั่นหัวใจเราสองให้ห่างไกลกันได้หรอก
8.ยังตัดสินใจไม่ได้ใช่ไหม เอางี้ โยนหัวก้อยกัน ถ้าออกหัว เธอมาเป็นแฟนฉัน
ถ้าออกก้อย ฉันจะยอมเป็นแฟนเธอ
9.อยากเอาชีวิต ฉันหรอ.......ยิงเลยสิ....ยิงมาที่กลางหัวใจเลย...แต่เธอจะเจ็บ
หน่อยนะ เพราะในนั้นหนะ...............มีเธออยู่
10.ขอยืมลายมือสวยๆหน่อยได้ไหม....จะเอาจดทะเบียนสมรส
11.เอามีดมาแทงเลยสิ แทงตรงหัวใจเลยนะ ฉันไม่เจ็บหรอก แต่เธอน่ะแหละที่จะ
เจ็บ.............เพราะเธออยู่ในใจเธอไง
12.ใช่สิ ฉันมันคนไร้หัวใจ ก็เธอเอาหัวใจฉันไปหมดแล้วนี่
13.ถ้าฉันมีปืน 2 อัน ฉันจะแบ่งให้เธอหนึ่งอัน.............เราจะได้มี GUN
และ GUN ไง
15. ถ้าเธอเป็นโคลน ฉันจะเป็นค ว า ย..............จะได้จมปลักรักเธอตลอด
ไป...
16.เดินดีๆ นะน้อง.......ระวังจะสะดุดรักพี่ละ
17.ฉัน : นี่ๆรู้ไหม เวลาเห็นหน้าคุณทีไร มักจะเป็นโรคชักทุกทีเลยอะ เธอ : ??
โรคชักไรหรอค่ะ ฉัน : โรคชักจะใจอ่อน
18. ฉันน่ะไม่ติงต๊องหรอก แต่ ThinkinG OF YoU
19. ฉัน : เมื่อวานนะเสียเวลาตั้งนาน เธอ : ทำไมเหรอ ฉัน : หลงทางในหัวใจเธอ
20. ขอปรึกษาปัญหาหากฎหมายหน่อยได้ไหม........ข้อหาลักลอบแอบชอบผู้อื่นโดยไม่
ได้รับอนุญาต ผิดกฎหมายมาตราไหนครับ
21. อยากเป็นแก้วน้ำ เธอจะได้รินใจใส่ไว้
22.ถึงแม้อับบลาฮัมลินคอล์นจะเลิกทาสไปแล้ว........แต่ทำไมหัวใจฉันยังตกเป็น
ทาสของเธออยู่เลย
23.ท่าทางเธอจะมีโชคนะ ฉันเป็นหมอดู.... ดูดวงจากหมายเลข
โทรศัพท์................ไหนบอกเบอร์มาสิ..ฉันจะทายให้(ขอเบอร์แบบเสี่ยวๆ)
24.ผมจะต้องไปรับลอตเตอรี่มาขายล่ะครับ............เพราะความรักของคุณ..มันทำ
ให้ผมตาบอดซะแล้ว
25.นี่เรารักเธอ เธอโกรธเปล่า กรณี1ไม่โกรธ งั้นเป็นแฟนกัน กรณี2 โกรธ งั้นก็
รักเราคือซะสิ
26." นี่ๆ ขอคำดิ!!!! " " คำว่า,,รัก,,น่ะ " ((เอาไว้เล่นตอนกินข้าว))
27.ฉัน : เปิดบัญชีรึยัง เธอ : เปิดแล้ว
28.ฉัน : เทอมีญาติเป็นสไปเดอร์แมนรึป่าว เธอ : ไม่มี ฉัน : มิน่าไม่มีเยื่อใย
ให้บ้างเลย
29.จะเรอให้คุณฟัง.....เรอทัก--รักเทอ
30.เวลาคุยโทรศัพท์กัน เรา:ตัวเองถือหูโทรศัพท์ข้างไหนอยู่อ่ะ เค้า: ข้างซ้าย/
ข้างขวา เรา:เค้ารักตัวเองนะ ตัวเองเปลี่ยนข้างถือได้ป่ะ (เปลี่ยนข้างแล้ว) เรา:ตัวเองถือหูโทรศัพท์ข้างไหนอ่ะ เค้า:ข้างซ้าย/ข้างขวา เรา:เค้าเกลียดตัวเอง
แล้วอ่ะ เค้า:ทำไมอ่ะ เรา:ก้อเค้ารักตัวเองข้างเดียวอ่ะ
31.เวลานั่งอยู่ เรา:ตัวเองๆเปลี่ยนที่นั่งได้ป่ะ เค้า:อ้าวแล้วหั้ยเราไปนั่ง
ไหนอ่ะ เรา:มานั่งในใจเราไง
32.เรา:เทอๆผมเรายาวยังอ่ะ 1.เค้า:ยังไม่ยาวเลยอ่ะ เรา:ยังยาวไม่พอจะมัดใจเท
อเลยเหรอ 2.เค้า:ก้อยาวแล้วนิ เรา:ยาวพอจะมัดใจเทอได้ยังอ่ะ
33.เวลาคุยโทรศัพท์กัน เค้า:อยู่ที่ไหนอ่ะ เรา:อยู่ในใจเทอ เค้า:ทำอะไรอยู่
อ่ะ เรา:ทำใจไม่หั้ยรักเทอ
34.ฉัน : นี่เทอที่บ้านไม่มีเก้าอี้ให้นั่งหรอ เธอ : ทำ ไม ค่ะ ??? ฉัน : ก้อ
เห็นชอบมานั่งในใจเรา
35.อยากเป็นกาแฟกระป๋อง...............จะได้เป็นหนี่งในใจคุณ
36.ถ้าฉันมีรองเท้าจะแบ่งให้เธอข้างหนึ่ง.............เราจะได้อยู่คู่กันตลอด
ไปไง
37.ฉัน : แถวนั้นอันตรายครับระวังลื่นนะครับ เธอ : ทำไมหล่ะคะ ฉัน : ก้อหัวใจ
ผม ละลายอยู่แถวๆนั้นอ่ะครับ
38.โอ๊ย อย่ากำแรง...............ยังไงเราก้อยอมเปงลูกไก่ให้เทออยู่แล้วน่า
ฉัน : เหรองั้นจะได้เอาใจไปฝาก
39.ช่วงนี้กำลังเบลอๆนะ...........เบลอว่ารักแถบ--แบบว่ารักเทอ
40. เรา : ที่บ้านมีน้ำมันไม๊อะ เค้า : มีอะทำไม เรา :จะได้เอามาทอดสะพานรัก
ของเรา
41.เธอ : อากาศเย็นออกทำไมไม่ใส่เสื้อ ไม่หนาวเหรอไง เรา : ไม่หนาวหรอก ...
เพราะอยู่ใกล้เธอแล้วอุ่นใจ ((ไว้เล่นตอนหน้าหนาว))
42. เรา : ตัวเองแถวบ้านมีถ่านขายป่ะ เธอ : มีดิ เรา : ฝากซื้อหน่อยได้ป่ะ
เธอ : จาเอาไปทำอะไรอ่ะ เรา : เอามาเติมรักให้เต็ม
43.ฉัน: นี่เธอๆช่วยหันหน้ามาให้ฉันเห็นทั้ง 2 ข้างหน่อยซิ เธอ : ทำไมล่ะ
ฉัน : ก้อฉันไม่อยากหลงรักเธอข้างเดียวไง
44.ฉัน : โอ้ย..อยากเป็นเส้นเลือดใหญ่จังเลยอะ เธอ : ทำไมล่ะ? ฉัน : ก็จะได้
ใกล้หัวใจเธอไงละจ๊ะ
45.พบเธอทีไรก็เจอทุกทีเลย..............เจอละไม--ใจละเมอ
46.เรา:เธอๆมีเหรียญบาทป่ะ เค้า:เอาไปทำไมหรอ เรา:เอาไปโทรบอกแม่ว่าเราเจอ
เนื้อคู่แล้ว
47.เรา : เดี๋ยวพี่ซื้อนาฬิกาให้เอาไม๊ เค้า: จะให้หนูใส่ไปทำไมค่ะ ตั้ง2
เรือน..? เรา: ก็เราจะได้ไม่ลืมวันเวลาที่เราอยู่ด้วยกันไงล่ะจ๊ะ
48.เดินๆอยู่ เรา : อ๊ะ ผึ้ง !!! ( พลางชี้นิ้วไปข้างหัวใจเค้า) เธอ : ???
เรา : เพิ่งจะรู้ว่ารัก
49.เรา: เห็นคุณเเล้วอยากจะซื้อบริษัทการบินไทยไห้จังเลย เค้า : ทำไมอ่ะ
เรา : ก้อมัน"รักคุณเท่าฟ้า"อ่ะ
50.ฉันเป็นโรคไตระยะสุดท้าย...........ไตหาหัวจาม--ตามหาหัวใจ
51.พระเยซูรักทุกคน................แต่ฉันไม่ใช่พระเยซูฉันจึงรักเธอคนเดียว
52.ใช่ฉันมันคนหลายใจ..................แต่รู้ไหมทุกใจมีแต่เธอคนเดียว
53.โอ๊ย เจ็บคออ่ะ....................ก็ความรักมันค้ำคอ
54.โอ๊ย เราเดินตกหลุมอ่ะ...........ตกหลุมรัก
55. เธอน่าขึงจังเลย..........ขึงถิด--คิดถึง
56.เค้า :นี่ๆ เด๋วคาบต่อปัยเรียนชั้นไหนหรอ?? เรา : ชั้นรักเทอหล่ะ ((ใช้ตอนอ
ยุ่ห้องเดียวกันระหว่างเปลี่ยนคาบ
57.เรา : หน้าอย่างคุณน่าจะเป็นเด็กช่างนะ เค้า : ??? เรา : ช่างน่ารักอะไร
เช่นนี้
58.เรา : เธอมีเข็มกะด้ายไหม เค้า : เอาไปทำอะไรหรอ เรา : เอามาเย็บใจน่ะสิ
เห็นหน้าเธอ แล้วใจจะขาด
59.เรา : ของเราหายอ่ะ ไม่รู้ว่าลืมไว้ที่เธอป่าว เค้า : ลืมไรไว้อ่ะ เดี๋ยว
ช่วยหา เรา : หัวจัยเราไง
60.เรา : ดูท้องฟ้าสิเล็กจัง เค้า : ทำไมหรอ เรา : เขียนคำว่า รักเธอ ยังไม่พอ
เลยอ่ะ
61.เรา : ทำยังไงดีเราลืม เค้า : ลืมอะไรหรอ เรา : เราลืมเธอไม่ได้
62.เรา : หิวจัง เธอ : ก็ไปหาอะไรกินสิ เรา : กะว่าจะสั่ง.... เธอ : ?? เรา :
สั่งพิซซ่า หน้าความรัก สลัดผัก ความคิดถึง เฟรนชฟราย ความคำนึง คิดถึง&ห่วงใย
63.เรา : นี่รู้ป่ะ เทอเปงคน โลภมาก เค้า : เอ้า เราโลภตงไหน เราทำไรผิดเนี๊
ยะ เรา : ก็เธอเล่นเอาหัวใจเราไปทั้ง 4 ห้องเลย
64. เรา : นี่ๆช่วยอะไรหน่อยได้มะ เค้า : อ่า ทำไรค่ะ เรา : ช่วยเดินไปตรง
กระจกแล้วบอกคนนั้นว่าเราคิดถึง
65. เรา : เหนื่อยมั้ยที่มาเดินเล่นในใจผม เค้า : แหวะ น้ำเน่าวะ เรา : ถึงน้ำ
เน่าแต่ยังเห็นเงาจันทร์นะ เค้า : กำ เสี่ยวแดก เรา : เสี่ยวนักเพราะรักเธอ เค้า : กำx2 นี่เทอเบลอป่าวเนี่ย เรา : เบลอว่ารักแถบ-แบบว่ารักเธอ เค้า : กำกำ
กำกำกำ ((รวมมิตร))
66.เรา:รู้เปล่าเธอเที่ยวทะเลตอนไหนสวยที่สุด เค้า : ตอนไหน เรา: ก็ตอนที่มี
เธออยู่ด้วยไง
67.เรา : นี่ๆหันไปทางซ้ายหน่อยสิ เค้า : ทำไมอะ เรา : น่าหันหน่อยสิ เค้า: อะ
แค่นี้พอยัง เรา : อืมใช้ได้ๆ เค้า : ให้หันทำไมอะ เรา : อยากให้ใจมันตรงกัน
หน่อยอะ
68. เรา : นี่ๆๆ เราว่าเธอโดนแล้วนะ เค้า : โดนไร เรา : ก้อโดนเรารักแล้วไง
69.เรา : ทำไมวันนี้เรามองเธอเราเจ็บตาจัง เค้า : อ้าว ทำไมเธอมองเราแล้วเจ็บ
อาล่ะ เรา : ก้อเทอสวยเตะตางัย
70.เรา: เธอๆๆ เธอ: มีไรเหรอ เรา: เก็บปากกาให้หน่อยดิ เธอ: นี่จ๊ะ เรา:
แล้วอย่าลืมเก็บหัวใจเราที่ตกอยู่ข้างๆปากกาด้วยนะ
71.ถ้าคุณต้องออกไปนอกโลก คุณจะเอาของสิ่งใดติดตัวคุณไป ~ 1. รองเท้า / ไปวิ่ง
ในหัวใจเธอ 2. กล่อง / ไว้เก็บใจของเธอ 3. เชือก / ไต่ขึ้นมาจากหลุมอวกาศที่เธอ
ขุดไว้ 4. พลาสเตอร์ / แปะแผลใจ 5. หมอน / ฝันถึงเธอ
72.เรา: เห้ย !! อย่า! เค้า : อย่าอะไร เรา:อย่าทำให้ฉัน ...รักเทอ
73.เรา: เอ่อโทดที เค้า : มีอะไรเหรอ เรา : ช่วยยกขาหน่อยได้ไหม เค้า : ทำไม
เรา : ก็เทอเหยียบหัวใจเราอยู่น่ะ
74. เรา : เธอตอนนี้อากาดเปงไงม่างอ่ะ เค้า : ร้อนอ่ะ เรา : งั้นสงสัยเราให้
ความอบอุ่นเทอมากเกินไป
75. เรา : เธอเป็นโรคหัวใจรั่วรึป่าว เค้า : ทำไมหรอ เรา : ก็เราใช้ความรัก
Sex แบบไหน ได้ลูกสาว หรือ ลูกชาย
อสุจิ จอมบงการ (เพศ)
การที่ไม่ได้เพศลูกตามที่ต้องการนั้นต้องโทษผู้ชายมากกว่า ครับ เพราะตัวกำหนดเพศก็คือ ตัวอสุจิของผู้ชายนั่นเอง ซึ่งอสุจิก็จะมีตัวอสุจิตัวผู้กับอสุจิตัวเมีย ถ้าอสุจิตัวผู้ไปถึงไข่ก่อน เจาะเข้าไปปฏิสนธิก่อนก็จะได้ลูกชาย แต่ถ้าอสุจิตัวเมียเจาะเข้าไปปฏิสนธิก่อนก็จะได้ลูกสาว ไข่ของผู้หญิงไม่ได้มีส่วนในการกำหนดเพศเลยครับ …เพราะอย่างนี้หากไม่ได้เพศตามที่ต้องการจะได้รู้ไว้เลยว่าเป็นความผิดของ ฝ่ายชายแต่เพียงผู้เดียว
พอรู้ว่าอสุจิของผู้ชายนี่เองที่เป็นตัวกำหนดเพศ นักวิทยาศาสตร์ก็เลยลองทำการศึกษาเจ้าอสุจิตัวผู้กับตัวเมียดู จับมาวิ่งแข่งกัน เอามาจับแช่กรดแช่ด่างดูว่ามันจะทนร้อนทนหนาวกันแค่ไหน ก็พบว่า เจ้าอสุจิตัวเมียจะตัวใหญ่อวบอั๋นกว่า อึดทนทานกว่า วิ่งช้ากว่า แต่ถ้าอยู่ในภาวะกรดอ่อนๆ จะวิ่งได้ดีกว่า ส่วนอสุจิตัวผู้จะตัวเล็กปราดเปรียวกว่า แต่ก็ใจเสาะ วิ่งไปได้ไม่เท่าไรก็หมดแรงเสียแล้ว แต่จะวิ่งได้เร็วกว่าอสุจิตัวเมีย ยิ่งเป็นด่างอ่อนๆ ก็ยิ่งชอบ
เซ็กซ์ห่างๆ ได้ลูกชาย
พอคนเราแอบไปรู้ความลับของเจ้าตัวอสุจิเข้าก็เอามาใช้ ประโยชน์ทันที คนที่อยากได้ลูกชายก็ต้องพยายามให้มีเพศสัมพันธ์ในวันที่ไข่ตกพอดี เพราะวันที่ไข่ตกพอดีนั้น ช่องคลอดก็จะมีความเป็นด่างสูง แล้วก็ต้องให้ถึงจุดสุดยอดพร้อมๆ กันอีกด้วยนะ เพราะตอนที่ถึงจุดสุดยอดผู้หญิงเราจะหลั่งน้ำที่มีภาวะเป็นด่างออกมา เชื้ออสุจิตัวผู้ก็จะวิ่งฉิวเลยครับ
ดังนั้นหากอยากจะได้ลูกชาย ฝ่ายคุณสามีก็ต้องเหนื่อยหน่อย ต้องพยายามทุกวิถีทางให้ภรรยาถึงจุดสุดยอดให้ได้ หากกลัวไม่ชัวร์ก็ให้เอาโซเดียมไบคาร์บอเนต 1 ช้อนชา ใส่น้ำ 1 ขวดแม่โขงหรือ 750 ซีซี เขย่าให้เข้ากัน สวนล้างช่องคลอด แค่นี้ช่องคลอดก็เป็นด่างสมใจ แถมเวลาปล่อยอสุจิออกมาก็ต้องปล่อยให้ลึกที่สุดเท่าที่ทำได้ เนื่องจากตัวผู้วิ่งเร็วแต่ก็วิ่งไปได้ไม่ไกล หากปล่อยเชื้อตื้นๆ เดี๋ยวมันจะวิ่งไปไม่ถึง เขาว่ากันว่าการมีเพศสัมพันธ์ในท่าเข้าทางด้านหลัง จะสามารถสอดใส่เข้าไปได้ลึกที่สุด แล้วต้องกดไว้ลึกๆ ด้วยนะครับ ลองดูก็แล้วกัน
แล้วหากอยากได้ลูกชายก็ต้องไม่ยุ่งกันบ่อยด้วย เรียกว่าเก็บอั้นน้ำเชื้อไว้ขุนเอาไว้ให้อ้วน พอถึงวันตกไข่ก็ยุ่งกันทีเดียวพอ เรียกว่า ยิงนัดเดียว จะมีโอกาสได้ลูกชายเยอะกว่า แต่ถ้าหากยุ่งกันบ่อยๆ ถี่ๆ วันหนึ่งสามเวลา วันหยุดเพิ่มรอบเช้า เรียกว่ายิงรัวกันเป็นชุด ก็มักจะได้ลูกสาวเสียมากกว่า…มิน่าเล่า…ผู้ชายเจ้าชู้ ชอบมีเพศสัมพันธ์บ่อยๆ เลยมักมีแต่ลูกสาว
แล้วก็คงเป็นเพราะอย่างนี้มั้งที่ลูกคนหัวปีมักจะเป็นลูกสาว มากกว่าลูกชาย เพราะตอนแต่งกันใหม่ๆ ข้าวใหม่ปลามันก็คงต้องมีอะไรกันถี่อยู่แล้ว ยิ่งถี่ก็ยิ่งมีโอกาสได้ลูกสาวมากกว่า พออยู่กันไปนานๆ ชักจะหมดแรง บางทีเดือนหนึ่งยุ่งกันแค่ทีสองที เลยมีโอกาสได้ลูกชายมากกว่า แต่ก็ไม่แน่เสมอไปนะครับ เพราะยังมีปัจจัยอื่นๆ อีกเยอะแยะ
เซ็กซ์ถี่ๆ มีลูกสาวจ้า
แล้วหากยากได้ลูกสาวละก็ ต้องมีเพศสัมพันธ์กันบ่อยหน่อย แล้วต้องไม่ใช่วันที่ไข่ตกด้วยนะ อาจจะก่อนสักวัน หรือหลังหนึ่งวันก็ได้ เพราะตอนนั้นช่องคลอดจะมีความเป็นกรดอ่อนๆ ซึ่งอสุจิตัวเมียจะวิ่งได้ดีกว่า แล้วถ้าหากอยากได้ลูกสาว ฝ่ายหญิงก็ต้องกัดฟันทนอย่าให้ถึงจุดสุดยอดด้วยนะครับ เดี๋ยวเกิดถึงขึ้นมาก็จะหลั่งน้ำที่เป็นด่างออกมา ตัวผู้มันจะวิ่งตัดหน้าไปถึงไข่ซะก่อนเลยอดได้ลูกสาว เพราะดันไปถึงจุดสุดยอดซะนี่ เวลายุ่งกันก็ไม่ต้องให้คุณสามีเล้าโลมมาก พยายามนึกถึงหน้าเจ้าหนี้ คิดถึงพระถึงเจ้าไว้ หรือไม่ก็นอนอ่านขายหัวเราะไปพลางๆ ก็ได้ ถ้าไม่ชัวร์ก็อาจสวนล้างด้วยน้ำ 1 ขวดแม่โขง ผสมน้ำส้มสายชูลงไป 1 ช้อนโต๊ะ ให้ช่องคลอดเป็นกรดอ่อนๆ แต่ไม่ใช่อยากได้ลูกสาวมากเล่นใช้น้ำส้มสายชูล้างทั้งขวดนะครับ เดี๋ยวของสำคัญจะแสบพองไปหมด ไม่ต้องมีอะไรกันพอดี
แล้วถ้าอยากได้ลูกสาวก็ต้องปล่อยน้ำเชื้อตื้นๆ ด้วย เชื้อตัวเมียถึงแม้จะอ้วนอุ้ยอ้าย แต่จะอึดว่ายไปได้ไกลกว่า จะยุ่งกันท่าไหนก็ได้ตามถนัด แต่ตอนจะปล่อยน้ำอสุจิก็ให้ถอยออกมาปริ่มๆ หน่อยก็แล้วกัน โดยมากแล้วผู้ชายเราจะถึงจุดสุดยอดในจังหวะดันเข้ามากกว่าจังหวะถอน ออกซะด้วย ยิ่งตอนสำคัญอย่างนี้บางทีก็หน้ามืดลืมซะทุกทีว่าต้องถอยออกมาปล่อยตื้นๆ …นึกขึ้นได้ก็ปล่อยออกมาจนคอพับคออ่อนไปก่อนซะแล้ว
ก็ยังสงสัยเหมือนกันนะครับว่าผู้ชายที่มีอวัยวะเพศยาวๆ ปล่อยเชื้อได้ลึกๆ น่าจะมีโอกาสได้ลูกชายมากกว่าลูกสาว ส่วนพวกอวัยวะเพศสั้นๆ ปล่อยเชื้อได้ไม่ค่อยลึกก็มักจะได้ลูกสาวมากกว่าลูกชาย แต่ยังหาไม่เจอครับว่ามีใครศึกษาวิจัยเกี่ยวกับเรื่องนี้กันบ้างหรือเปล่า เจอแล้วจะบอกละกัน
เซ็กซ์ เลือกเพศ ไม่ง่ายนะ…
ขั้นตอนที่ดูจะลำบากสำหรับการเลือกเพศแบบธรรมชาตินี้ก็ เห็นจะเป็นตอนสวนล้างช่องคลอดนี่แหละครับ จะเอามาล้างข้างนอกอย่างเดียว โดยมากแล้วไม่ได้ช่วยอะไร เพราะน้ำยาสวนล้างไม่สามารถเข้าไปถึงภายในช่องคลอดได้ ความเป็นกรดด่างของช่องคลอดก็ยังคงเหมือนเดิมๆ ไม่เปลี่ยนแปลง จะกรอกเข้าไปก็เห็นจะยาก เพราะช่องคลอดมันจะปิดอยู่ตลอดเวลา ถ้าจะให้ได้ผลจริงๆ ผมว่าเห็นจะต้องใช้อุปกรณ์สวนล้างช่องคลอดล้างเข้าไปถึงข้างใน อย่างนี้ถึงจะชัวร์
เวลามีเพศสัมพันธ์ถ้าจะให้ดีก็ต้องรู้สึกผ่อนคลาย เคลิบเคลิ้มสบายๆ มันถึงเป็นเพศสัมพันธ์ที่น่าประทับใจ แต่ถ้าหากต้องลุกขึ้นมานั่งสวนล้างช่องคลอดยักแย่ยักยันคั่นรายการ จะเข้านอนวันไหนแล้วมีอะไรกันวันไหน ปกติแล้วมันไม่สามารถบอกกันได้ล่วงหน้าหรอกครับ แล้วแต่อารมณ์ แต่ถ้าอยากจะเลือกเพศก็ต้องงดวันนี้นะ ต้องยุ่งกันวันนี้นะ ไม่มีอารมณ์ก็ต้องทำไปตามหน้าที่ บางคนเครียดกับเรื่องนี้มากจนเกิดอาการไม่แข็งตัวเลยก็มี
แล้วคนเราบางทีก็ไม่ได้ท้องกันง่ายๆ หรอกครับ ผ่านไปเดือนหนึ่งก็ยังไม่ท้อง สองเดือนก็ยังไม่ท้อง สามเดือน สี่เดือน บางทีก็เหมือนจำใจต้องมีเพศสัมพันธ์ตามวันที่กำหนด ต้องสวนล้าง ต้องทำตามแบบที่กำหนดอย่างนี้ไปเรื่อยๆ มันก็ทำให้ชีวิตบนเตียงเหมือนฝืนใจทำ…อยู่กันไปอยู่กันมาก็เครียดกันเปล่าๆ
การเลือกเพศโดยวิธีธรรมชาตินี้ตามทฤษฎี เขาว่ามีโอกาสได้เพศที่ต้องการเพียงแค่ 60-70 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นเองครับ แต่ผมว่าไม่ว่าจะทำยังไงโอกาสที่จะได้เพศลูกมันก็ไม่เปลี่ยนไปจากเดิมหรอก ครับ เพราะเราไม่ได้จับเชื้ออสุจิตัวผู้กับตัวเมียมาวิ่งแข่งกันเป็นเส้นตรงจาก ปากมดลูก มุดเข้าไปในมดลูก ว่ายแข่งกันไปจนถึงปีกมดลูก แล้วเข้าไปเจาะไข่
เพราะเชื้ออสุจิมันไม่มีลูกตา ไม่มีระบบนำวิถี มันจะว่ายสะเปะสะปะไปเรื่อยๆ ด้วยความที่มันเคลื่อนไม่แน่ไม่นอนนี่แหละก็เลยทำให้จำนวนเชื้ออสุจิตัวผู้ กับตัวเมียไปถึงไข่ในเวลาไม่แตกต่างกันนัก จำนวนเชื้อโดยเฉลี่ยแล้วก็ไม่แตกต่างกันเลยครับ ยังไงเสียโอกาสได้เพศที่ต้องการมันก็ห้าสิบห้าสิบเหมือนเดิม
ก็อย่าไปซีเรียสเลยครับ ลูกสาวหรือลูกชายก็ลูกเราเหมือนกัน ขอให้สมบูรณ์แข็งแรง เติบโตมาเป็นเด็กดีของพ่อของแม่ เป็นคนดีของสังคมก็พอใจแล้ว…อย่าไปเครียดอย่าไปคาดหวังเลย… ปล่อยตัวปล่อยใจสบายๆ มีเพศสัมพันธ์ให้มีความสุขดีกว่านะครับa
9 เทคนิคฝึกสมองไบรท์
โดย วนิษา เรซ ผู้เชี่ยวชาญด้านอัจฉริยภาพจาก ม.ฮาร์วาร์ด
ผู้หญิงสมัยนี้ อยากสวย ฉลาด และสุขภาพดี ทุกคนจึงพากันดูแลรูปร่าง ด้วยการออกกำลังกายเคร่งครัด เรื่องอาหารการกิน แต่ไม่เคยมีใครสนใจว่าจะดูแลสมองอย่างไรให้มีสุขภาพดี ทั้งที่สมองเป็นอวัยวะที่ตัดสินใจทุกเรื่องของชีวิต เราจึงควรเอกเซอร์ไซส์สมองให้ไบรท์ด้วยเทคนิคง่าย ๆ ต่อไปนี้
1. จิบน้ำบ่อย ๆ (Drink water very often) สมองประกอบด้วยน้ำ 85 % เชลล์สมอง ก็เหมือนต้นไม้ที่ต้องการน้ำหล่อเลี้ยง ถ้าไม่มีน้ำ ต้นไม้ก็เหี่ยว ถ้าไม่อยากให้เชลล์สมองเหี่ยว ซึ่งส่งผลให้การส่งข้อมูลช้า กลายเป็นคนคิดช้าหรือคิดไม่ค่อยออก แต่ละวันจึงควรดื่มน้ำบ่อย ๆ
2. กินไขมันดี (Enjoy good Omega 3) คนไม่ค่อยรู้ว่าสมองคือก้อนไขมัน ซึ่งจำเป็นต้องมีไขมันดีไปทดแทนส่วนที่สึกหรอ แนะนำให้กินไขมันดีระหว่างวัน จำพวกน้ำมันปลา สารสกัดใบแปะก๊วยปลาที่มีไขมันดีอย่าง ปลาแซลมอน นมถั่วเหลือง วิตามินรวม น้ำมันพริมโรสเป็นน้ำมันดี ที่ทำให้เชลล์ชุ่มน้ำ ส่วนวิตามินซีกินแล้วสดชื่น
3. นั่งสมาธิวันละ 12 นาที (Meditation 12 min a day) หลังจากตื่นนอนแล้ว ให้ตั้งสติและนั่งสมาธิทุกเช้า วันละ 12 นาที เพื่อให้สมองเข้าสู่ช่วงที่มีคลื่น Theta ซึ่งเป็นคลื่นที่ผ่อนคลายสุด ๆ ทำให้สมองมี Mental Imagery สามารถจินตนาการเห็นภาพและมีความคิดสร้างสรรค์ ( ถ้าทำไม่ได้ตอนเช้า ) ให้หัดทำก่อนนอนทุกวัน
4. ใส่ความตั้งใจ (Program the brain: have specific intention) การตั้งใจในสิ่งใดก็ตาม เหมือนการโปรแกรมสมองว่านี่คือสิ่งที่ต้องเกิด ระหว่างวันสมองจะปรับพฤติกรรมเราให้ไปสู่เป้าหมายนั้น ทำให้ประสบความสำเร็จในสิ่งต่าง ๆ เพราะสมองไม่แยกระหว่างสิ่งที่ทำจริงกับสิ่งที่คิดขึ้น ทั้งสองอย่างจึงเป็นเสมือนสิ่งเดียวกัน
5. หัวเราะและยิ้มบ่อย ๆ (Laugh and Smile) ทุกครั้งที่ยิ้มหรือหัวเราะ จะมีสารเอ็นโดรฟินซึ่งเป็นสารแห่งความสุข หลั่งออกมาเท่ากับเป็นการกระตุ้น ให้มีความอยากรักและหวังดีต่อคนอื่นไปเรื่อยๆ
6. เรียนรู้สิ่งใหม่ทุกวัน (Learn new thing everyday) สิ่งใหม่ในที่นี้หมายถึง สิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน เช่น กินอาหารร้านใหม่ ๆ รู้จักเพื่อนใหม่ อ่านหนังสือเล่มใหม่ คุยกับเพื่อนร่วมงานและเรียนรู้วิธีการทำงานของเขา เป็นต้น เพราะการเรียนรู้สิ่งใหม่ทำให้สมองหลั่งสารเอ็นโดรฟิน และโดปามีน ซึ่งเป็นสารแห่งการเรียนรู้ กระตุ้นให้อยากเรียนรู้และ สร้างสรรค์ ไปเรื่อย ๆ เมื่อมีความสุขก็ทำให้มีความคิดสร้างสรรค์
7. ให้อภัยตัวเองทุกวัน (Forgive yourself, reduce brain stress) ขณะที่การไม่ให้อภัยตัวเอง โกรธคนอื่น โกรธตัวเอง ทำให้เปลืองพลังงานสมอง การให้อภัยตัวเอง เป็นการลดภาระของสมอง
8. เขียนบันทึก Graceful Journal (Write graceful journal, good things in life every day) ฝึกเขียนขอบคุณสิ่งดี ๆ ที่เกิดขึ้นแต่ละวันลงในสมุดบันทึก เช่น ขอบคุณที่มี ครอบครัวที่ดี ขอบคุณที่มีสุขภาพที่ดี ขอบคุณที่มีอาชีพที่ทำให้มีความสุข เป็นต้น เพราะการเขียนเรื่องดี ๆ ทำให้สมองคิดเชิงบวก พร้อมกับหลั่งสารเคมีที่ดีออกมา ช่วยให้หลับฝันดี ตื่นมาทำสมาธิได้ง่าย มีความคิดสร้างสรรค์
9. ฝึกหายใจลึก ๆ (Deep breath) สมองใช้ออกชิเจน 20 25 % ของออกชิเจนที่เข้าสู่ร่างกาย การฝึกหายใจเข้าลึก ๆ จึงเป็นการส่งพลังงานที่ดีไปยังสมอง ควรนั่งหลังตรงเพื่อให้ออกชิเจนเข้าสู่ร่างกายได้มากขึ้น ถ้านั่งทำงานนาน ๆ อาจหาเวลายืนหรือเดินยึดเส้นยืดสายเพื่อให้ปอดขยายใหญ่ สามารถหายใจเอาออกชิเจนเข้าปอดได้เพิ่มขึ้นอีก 20 % การมีสมองที่ดีก็เหมือนทักษะทุกอย่างในโลกที่เรียนรู้ได้ แต่จะเก่งหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับการฝึกฝน ถ้าเราดูแลและฝึกฝนสมองให้ดี คุณภาพชีวิตก็จะดีตาม
ตำราการจีบสาว
The Ultimate challenge: เดี๋ยวร้อนเดี๋ยวเย็น ๆ ๆ ๆ
ในการจีบสาว challenge เป็นสิ่งที่จําเป็นมาก พวกเธอจะต้องรู้สึกว่า คุณเป็นสิ่งที่ท้าทายที่จะได้มา ถ้าพวกเธอได้คุณมาอย่างง่ายดายแล้วล่ะก้อ
คุณก็จะถูกทิ้งไปอย่างง่ายดายและรวดเร็วเช่นเดียวกัน มันเหมือนกับเวลา ที่คุณเล่นเกม ถ้าเกมไหนมันง่าย คุณก็อาจจะเล่นสนุกกับมันไปซักพัก แต่ ไม่นานหรอก พอคุณชนะ พอคุณเล่นไปเรื่อยๆ จนรู้เทคนิคต่างๆหมดแล้ว คุณก็จะเริ่มเบื่อเพราะว่าคุณเล่นเมื่อไหร่ก็ชนะมันเมื่อนั้น และคุณก็จะไม่หัน กลับไปเล่นเกมนั้นอีก สังเกตมั้ยว่าทําไมเวลาคนเราแต่งงานไปแล้วความรักถึง
ค่อยซู่ซ่าเหมือนเมื่อตอนรักกันใหม่ ๆ
ก็เพราะเค้าชนะกันหมดแล้วนั่นเอง มันไม่มีความท้าทายเหลืออยู่แล้ว!!! การจีบสาวนั้นไม่ได้แตกต่างกัน ถ้าคุณเป็นคนที่ท้าทาย สาวที่เฉยๆกับคุณก็
จะชอบคุณขึ้นมาได้ สาวที่ชอบคุณอยู่แล้วจะยิ่งชอบคุณขึ้นไปอีก แต่หลักสําคัญ มันอยู่ที่ว่า คุณจะต้องเป็นเกมที่ไม่ง่ายเกินไปและไม่ยากเกินไปสําหรับเธอ คุณจะต้อง รักษาสมดุลตรงนี้เอาไว้ให้ได้ ต้องอยู่ตรงกลาง ถ้าคุณเป็นเกมที่ยากเกินไป เธอก็จะไม่เล่นกับ คุณเพราะเธอรู้ว่าเธอไม่มีโอกาสชนะ เธอจะหันไปเล่นเกมอื่น มีเทคนิคนึงที่ดีที่สามารถจะทําให้เธอมองว่าคุณเป็นคนที่ท้าทายได้ เทคนิคนี้ เรียกว่า hot & cold (เดี๋ยวร้อนเดี๋ยวเย็น) และมันจะใช้ได้ดีมากเมื่อตอนที่เธอเริ่มสนใจเราบ้างแล้ว
วันที่ 1 : คุณเจอเธอครั้งแรก เข้าไปขอเบอร์อย่างมั่นใจ เธอรู้สึกได้ว่าคุณเป็นแมนจริงๆ ให้เบอร์มา (Hot)
วันที่ 4 : คุณโทรไปคุยอย่างสนุกสนาน ชวนเธอไปเที่ยวด้วยกันข้างนอก เธอตกลง (Hot)
วันที่ 6 : เดทกับเธอ คุณใช้เทคนิค dj ต่างๆ จนเธอเริ่มเปิดใจ กับคุณบ้าง (Hot)
วันที่ 7 : เธอ messege มาหาคุณแต่คุณไม่ได้สนใจที่จะตอบกลับ (Cold) ตอนเย็นคุณโทรไปหาเธอบอกว่าเมื่อวานสนุกมาก คุณแลเธอน่าที่จะ ไปหาอะไรทํากันอีก (Hot)
วันที่ 8: คุณกับเธอไปดูหนัง ทานข้าว คุณยังคงใช้เทคนิค dj อย่างต่อเนื่อง เธอเริ่มสนใจคุณมากกว่าเดิมแล้ว (Hot)
วันที่ 9 : เธอโทรมาหาคุณเอง คุณคุยได้แปปเดียวแล้วคุณก็บอกว่าต้องไปทําธุระ (Cold)
วันที่12 : คุณโทรไปคุยกับเธอ อย่างสนุกสนานเช่นเคยแต่พอดีเพื่อนคุณโทรเข้ามา คุณบอกเธอว่ามีสายซ้อนต้องไปรับ (Hot และ Cold )
วันที่ 15: คุณกับเธอไปข้างนอกด้วยกันอย่างสนุกสนานเช่นเคย (Hot) เธอบอกคุณว่าพรุ่งนี้ให้โทรมาหา แต่คุณไม่ได้โทรไป (Cold)
วันที่ 18: เธอโทรหาคุณแต่คุณไม่ได้รับ (Cold) ตอนกลางคืนเธอ messege มาถามว่าทําอะไรอยู่ คุณไม่ได้ตอบกลับ (Cold)
วันที่ 19: คุณ messege ไปหาเธอ (Hot) เธอดีใจโทรกลับมา แต่คุณไม่ได้รับ (Cold) อีกหนึ่งชั่วโมงคุณโทรกลับไป นํ้าเสียงเธอดีใจ คุณคุยตามปกติ(Hot)
วันที่ 22: คุณไปรับเธอไปเที่ยว (Hot) เธอเริ่มพูดถึงผู้ชายคนอื่นที่มาจีบเธอ คุณไม่สนใจเหมือนไม่แคร์ (Cold) คุณรับโทรศัพท์ที่สาวอื่นโทรมา เธอถามว่าคุยกับใคร คุณบอก ว่าไม่มีอะไร แต่เธอไม่ค่อยเชื่อเธอรู้สึกเหมือนคุณมีสาวอื่นด้วย(Cold) เที่ยวอย่างสนุก คุณเดินจูงมือเธอ (Hot)
วันที่ 23-31: เธอกับคุณยังคงติดต่อกัน เธอโทรมาบางครั้งคุณก็รับ บางครั้งก็ไม่ บางครั้งคุณก็โทรไปบอกฝันดีนะ คิดถึง คุณอยู่กับเธอบางครั้งคุณก็กอดเธออย่างอบอุ่น บางครั้งคุณก็ไม่สนใจเธอเลย บางครั้งคุณพูดหวาน บางครั้งคุณตําหนิเธอ บางครั้งเธอสําคัญที่สุด
บางครั้งสิ่งอื่นสําคัญกว่าเธอ
Hot Cold Hot Cold Hot Cold Hot Cold
Hot Cold Hot Cold Hot Cold Hot Cold Hot Cold!!!
Get มั้ยครับ! เธอเหมือนๆจะได้คุณแล้ว แต่ก็เหมือนยังไม่ได้ คุณเหมือนๆจะยอมเธอ แต่ก็ยังไม่ได้ยอม มันคล้ายๆกับว่าเรายื่นขนมให้เธอกินแล้วพอเธอกําลังจะใส่ปากเรา ดึงมือกลับไม่ให้เธอกินซะนี่ เราเป็นเกมที่สุดยอดท้าทายสําหรับเธอ ไม่ใช่เกมที่ยาก แต่ก็ไม่ใช่เกมที่ง่าย คุณคือสุดยอดเกม โคตรพ่อท้าทาย The Ultimate Challenge เป็นเกมที่เธอเล่นยังไงก็ไม่มีวันจบ แต่เล่นแล้วสนุกทุกครั้ง!!!
เป็นแมนที่แท้จริง เราได้ยินกันเสมอว่าเวลาจีบหญิงให้ทําตัวเป็นแมน "กล้าๆเข้าไว้ ทําตัวให้เป็นแมนหน่อย" อะไรแบบนั้น
ใช่แล้ว เรารู้ว่าต้องเป็นแมน แต่ความเป็นแมนมันอยู่ตรงไหนล่ะ คนที่เป็นแมนเค้าจะทําตัวแบบไหน มีลักษณะอย่างไร
คนที่เป็นแมนนั้นเป็นคนที่แข็งแรง มีกล้ามโตๆอย่างนั้นเหรอ? ไม่ใช่ เรากําลังพูดกันถึงความแข็งแรงทางด้านจิตใจ ด้านทัศนคติ
ไม่ใช่ทางด้านร่างกาย อ๋อ ถ้าอย่างนั้น คนที่เป็นแมนเป็นคนที่กล้าหาญอย่างนั้นเหรอ? ก้อถูก ครับแต่บางส่วนเท่านั้น ถ้างั้นคนที่เป็นแมนที่แท้จริงเป็นยังไงกันแน่ ลองไปดูกันได้เลย!!!
--มีเป้าหมายในชีวิต หมายถึงเป้าหมายในการที่จะจีบสาวเหรอ? ไม่ใช่ เค้ามีเป้าหมายอย่างอื่นที่แท้จริงในชีวิต เป็นสิ่งที่เป็นทุกๆ
อย่างในตัวเค้า เป็นความฝันอันสูงสุด เป็นสิ่งที่บ่งบอก ความสําคัญในชีวิต ทุกๆวันเค้าจะพยายาม ไล่ตามเป้าหมายหรือความฝันของเค้าไปทีละนิดๆ เข้าใกล้มันไปเรื่อยๆ เป้าหมายในชีวิตนั้น เป็นเหตุผลที่ทําให้เค้ายังมีชีวิตอยู่ เค้าไม่เคยเลิกล้มความฝันเพราะ ถ้าเค้าทํามันก็เท่ากับว่าเค้าไม่ได้มีชีวิตอยู่ต่อไปแล้วนั่นเอง
--หาทางแก้ปัญหา ไม่โทษคนอื่น
เมื่อเกิดปัญหาเค้าหาทางแก้ ไม่มัวแต่มาโทษคนอื่น หรือสิ่งรอบตัว เค้ารู้ดีว่าปัญหามันเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับ มนุษย์ทุกคนเป็นเรื่องปกติธรรมดาอยู่แล้ว เค้ายอมรับ และหาทางแก้
--ไขว่คว้าในสิ่งที่ต้องการ เป็นคนที่เดินเข้าหาสิ่งที่ตัวเองต้องการเป็นเส้นตรง ไม่มัวแต่อ้อมไปอ้อมมา เค้าทําในสิ่งที่เค้าอยากจะทํา ตราบใดที่มันไม่ทําให้คนอื่นเดือดร้อน ถ้าเค้าเห็นสาวสวย ที่อยากจะจีบ เค้าจีบ ไม่มีการลังเล เค้าต้องการสิ่งใด เค้าไขว่คว้าเอามันมา ง่ายๆแค่นั้นเอง
--ไม่เสียใจในความเป็นแมน เค้าภูมิใจในความเป็นแมน ไม่เคยเสียใจที่เกิดมาเป็นแมน ผู้ชายที่เป็นแมนชอบผู้หญิงและชอบผู้หญิงสวยด้วย เค้าไม่เคยขอโทษในความเป็นแมนของเค้า ไม่เคยพูดว่า "ผมขอโทษนะครับที่มองคุณ ขอโทษทีที่อยากจะจีบ คุณ อยากจะได้เบอร์โทรศัพท์คุณ" ไม่มีทาง!!! เพราะว่าเค้าเป็นแมนอย่างแท้จริงนั่นเอง
--ต้องการเป็นผู้ชนะ ผู้ชายที่เป็นแมนต้องการที่จะเป็นผู้ชนะในทุกๆเรื่อง ที่เค้าลงมือทํา เค้าอยากที่จะประสบความสําเร็จ ซึ่งบางที มันจะทําให้ดูเหมือนว่าเค้าเป็นคนที่ก้าวร้าวอยู่สักหน่อย
--กล้าเผชิญหน้ากับความจริง
กล้าที่จะเผชิญกับความจริงไม่ว่ามันจะดีหรือร้าย แค่ไหนก็ตาม
--รู้ดีว่าควรทําอะไร
คนที่เป็นแมนเป็นคนที่ควบคุมตัวเองได้เป็นอย่างดี เค้ารู้ดีว่าอะไรเป็นสิ่งที่สําคัญที่จะต้องทํา รู้ว่าควร จะทําตัวอย่างไรในสถานการณ์ต่างๆ เค้าไม่เอาอารมณ์
ความรู้สึกมาเป็นตัวกําหนดการกระทํา
--รู้ว่าความผิดพลาดเป็นสิ่งที่จะพาไปสู่ความสําเร็จ ความล้มเหลวเป็นเพียงแค่สิ่งที่เกิดขึ้นชั่วคราวเท่านั้น เค้ารู้ดีว่ามันจะเป็นส่งที่พาเค้าไปสู่ความสําเร็จ เป็นสิ่ง
ที่มีค่าที่จะสอนเค้า เค้าเรียนรู้จากความผิดพลาดและ เอามันมาเป็นบทเรียน
นี่แหละคือแมนที่แท้จริง!!!ความสุขของดอนฮวน : สิ่งที่สําคัญที่สุด เอาล่ะครับ บทนี้เป็นบทที่สําคัญมากอีกบทหนึ่ง เอ่อ...จริงๆแล้วผมพูดผิดครับ
ไม่ได้สําคัญมากหรอกแต่มัน.....สําคัญที่สุดต่างหาก!!! เพราะว่าผมกําลังจะพูดถึง สิ่งที่สําคัญที่สุดในชีวิตของคนเรา มันเป็นจุดมุ่งหมายหลักอันดับแรกในชีวิต
เป็นสิ่งที่ทําให้เรารู้สึกว่าโลกนี้มันน่าอยู่ มันทําให้เรารู้สึกว่าชีวิตนี้เป็นสิ่งที่มีค่า มีความหมาย ครับ ผมกําลังพูดถึงคําว่า
"ความสุข"
ความสุขนี่แหละครับที่ทําให้พวกเราได้เข้ามาในเวบนี้ เราต้องการที่จะได้ความสุขจากการจีบสาว เราต้องการให้มันประสบผลสําเร็จ ความสุขนั้นเป็นสิ่งที่ทุกคนต่างก็พยายามที่จะได้มันมา ไม่ว่าจะด้วยวิธีไหนก็ตาม ไม่ว่ามันจะยากเย็นแสนเค็ญ แค่ไหน ทุกคนก็ยังดิ้นรนเพื่อที่จะได้มันมาอยู่ดี
แล้วความสุขของของคนทั่วไปอยุ่ที่ไหนครับ ยกตัวอย่างเช่น nice guy คุณคิดว่าความสุขของ nice guy อยู่ที่ไหนครับ? อื้มม เราลองให้คุณดอนฮวนมาถามคุณ nice guy กันดูดีกว่า
"คุณ nice guy ครับ ความสุขที่สุดในชีวิตของคุณอยู่ที่ไหนครับ" ดอนฮวนถาม คุณ nice guy ตอบมามากมาย
"การที่สาวสวยตกปากรับคําออกเดท "
"เมื่อได้ไปดูหนังกับสาวสวยสองต่อสอง"
"เมื่อสาวคนที่หมายปองยอมให้จับมือ"
"เมื่อผมให้ดอกไม้เธอแล้วเธอเข้ามากอดผม"
"เมื่อเธอยอมรับผมเป็นแฟน"
"เมื่อเธอเข้ามาหอมแก้มผมและบอกว่าคิดถึง"
"คุณถามผมทําไมครับคุณ dj ในเมื่อสิ่งต่างๆ เหล่านี้ต่างก็เป็นสิ่งที่ทําให้คุณและผมมีความสุขที่สุด" nice guy ถามกลับ
"คุณ nice guy ใช่ครับสิ่งที่คุณพูดมา ผมไม่ปฎิเสธหรอกครับว่ามันทําให้ผมมีความสุข
แต่คุณรู้มั้ยว่ามันยังไม่ใช่ความสุขที่สุดสําหรับผม มันยังไม่ใช่ครับ"
"ไม่น่าเป็นไปได้!!! มีสิ่งที่ทําให้คุณมีความสุขมากกว่านี้อีกเหรอครับ? มันคืออะไรกันแน่
คุณ dj ลองบอกให้ฟังหน่อยสิครับว่าความสุขของคุณอยู่ที่ไหน?" nice guy งุนงงกับคําตอบที่ได้รับ
"ได้ครับ แต่ผมจะเล่าเป็นนิทานให้คุณฟังก็แล้วกัน"
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว เทพเจ้าผู้สรรค์สร้างความสุขได้เรียกเทพเจ้าจากทั่วทุกสารทิศมารวมตัวกันเพื่อ
ประชุมในวาระสําคัญ แล้วเทพเจ้าแห่งความสุขก็พูดขึ้นว่า
"หลังจากที่มนุษย์ได้ทราบข่าวว่าข้าได้นําความสุขไปเก็บไว้ที่ดินแดนอันไกลโพ้นแห่งหนึ่ง ก็ได้มีมนุษย์จํานวนมากมาย
ออกเดินทางไปที่ดินแดนแห่งนั้นเพื่อนําความสุขมาสู่แดนมนุษย์ แต่สิ่งที่ข้าไม่คาดฝันก็คือมนุษย์ต่างก็อยากจะได้ความสุข
มาครอบครองแต่เพียงผู้เดียว ระหว่างการเดินทางจึงเกิดการแก่งแย่ง ทะเลาะวิวาทกันในหมู่มนุษย์ขึ้นมา เกิดการเห็นแก่ตัว
บ้างก็เข่นฆ่ากันเองไม่มีความสงบเหลืออยู่อีกต่อไป ในสถานการณ์เช่นนี้ข้าว่าข้าจะดัดนิสัยพวกมนุษย์เหล่านี้สักหน่อย
และนําความสุขไปเก็บไว้ที่อื่น ท่านทั้งหลายคิดว่าข้าควรจะทําเช่นไรดี?" เทพเจ้าแห่งความสุขถาม
"ข้าว่าท่านควรจะนําความสุขไปซ่อนใต้มหาสมุทรที่ลึกที่สุด" เทพเจ้าองค์หนึ่งให้ความเห็น
"ไม่ได้ เราทําเช่นนั้นไม่ได้เพราะมนุษย์ก็จะหาวิธีดํานําลงไปค้นหาความสุขอยู่ดี" เทพเจ้าแห่งความสุขพูด
"ถ้าอย่างนั้นเราก็ควรจะนําความสุขไปไว้บนภูเขาที่สูงที่สุด ที่มนุษย์ยากจะปีนขึ้นไป" เทพเจ้าอีกองค์เสนอ
"ไม่ได้อีกเช่นกันท่าน เพราะว่าในที่สุดมนุษย์ก็จะคิดวิธีปีนขึ้นไปบนภูเขาและการแก่งแย่งกันก็จะไม่ลดน้อยลงด้วย"
เทพเจ้าทั้งหลายต่างก็ประชุมกันอย่างเคร่งเครียดเป็นเวลานาน จนในที่สุดเทพเจ้าแห่งความสุขก็ตะโกนขึ้นมาว่า
"ข้านึกออกแล้ว!!!"
"ท่านคิดอะไรอยู่หรือ?" เทพทุกองค์ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกัน
"ข้าคิดออกแล้วว่าข้าจะนําไปซ่อนไว้ในที่ซึ่งมนุษย์น้อยคนนักจะคาดเดาได้ ข้าจะนําความสุขไปซ่อนไว้ในใจของพวกมนุษย์เอง"
"ซ่อนไว้ในใจหรือ?"
"ใช่ ข้าจะนําความสุขไปซ่อนไว้ในใจของมนุษย์ทุกคน การแก่งแย่งก็จะลดน้อยลง และมันก็จะมีมนุษย์น้อยคนที่ สามารถรู้ได้ว่าความสุขที่แท้จริงนั้นอยู่ที่ใด และด้วยวิธีนี้พวกมนุษย์ก็จะสามารถเลือกได้เองด้วยว่า พวกเขาอยากจะมีความสุขหรือไม่ เพราะว่าความสุขอยู่ในใจพวกเขาแล้วนั่นเอง" หลังจากดอนฮวนเล่านิทานจบ nice guy ก็พูดขึ้นมาว่า
"คุณกําลังจะบอกผมว่าความสุขของคุณอยู่ที่......."
"ใช่ครับ ความสุขที่สุดมันอยู่ที่ใจผมนั่นเอง ความสุขที่สุดของผมไม่ได้อยู่ที่ภายนอก แต่มันมาจากภายในตัวผมครับ มันขึ้นอยู่กับตัวผม" dj ตอบ ความสุขของดอนฮวนขึ้นอยู่กับตัวเค้าเอง ความสุขที่แท้จริงมาจากภายในตัวเอง ทุกๆบท ทุกๆเทคนิคในเวบจะไร้ค่า ไร้ความหมายไปเลยถ้าคุณยังไม่มีความสุขกับตัวเอง
neg-hit , cocky funny, challenge, กําจัดความดิ้นรน ,......... และอีกร้อยแปดพันเก้า
ทุกๆอย่างครับ!!! มันจะมีประโชน์อะไรครับถ้าคุณสามารถจีบสาวติดได้แต่คุณไม่มีความสุขกับตัวคุณเอง มันจะมีประโยชน์ยังไงถ้าเมื่อเธอทําดีกับคุณแล้วคุณมีความสุขมาก แต่พอเธอเริ่มห่างเหิน คุณกลับเศร้าและทุกข์ระทม
คุณกําลังไปรอให้เธอมาทําให้คุณมีความสุข ความสุขของคุณขึ้นอยู่เธอ ความสุขของคุณ
ไม่ได้ขึ้นอยู่กับตัวคุณเอง!!!
ทําไมเราไม่สร้างความสุขขึ้นมาจากภายในตัวเองล่ะครับ มันง่ายกว่าที่คิดมาก
และคุณรู้มั้ยครับว่ามันคือสิ่งที่สําคัญที่สุดดดดดดดดดดดดที่จะทําให้คุณจีบสาวติดเลยก็ว่าได้
Cocky Funny and Sexual : Cocky Funny and Neg hit
ช่วงที่ผ่านมา ผมได้รับ e-mail จากหลายๆท่านเขียนมาบอกว่า
อยากที่จะให้เพิ่มเติมในส่วนของ cocky funny เพราะรู้สึกว่ามัน
สนุกและได้ผลดี
ครับ ผมก็คิดเหมือนกัน สาว 2-3 คนที่ผมจีบติดช่วงหลังๆ มานี่
cocky funny (CF) มีส่วนสําคัญมากครับ ผมมาคิดดูแล้วถ้าไม่มี
CF นี่ผมคงจีบไม่ติดอย่างแน่นอน
ก่อนอื่นผมอยากจะพูดถึงทัศนคติที่คุณต้องมีเวลาที่ใช้ CF กันก่อน
สิ่งแรกที่คุณต้องมีซึ่งเหมือนกับการใช้เทคนิคอื่นๆ ก็คือ คุณต้องไม่สนใจผลลัพธ์
เพราะอย่างที่รู้ๆกันอยู่ว่า ถ้าเราสนใจผลลัพธ์ เราก็มั่นใจแค่เปลือกนอก แต่ข้างในยัง
หวังที่จะให้เธอมาชอบ ถ้าเป็นอย่างนั้น คุณก็จะไม่สามารถ CF ได้เต็มที่เพราะคุณกดดันตัวเอง
คุณไม่จําเป็นต้องกดดันตัวเองว่าจะต้องจีบสาวคนนี้ให้ติดให้ได้ คุณไม่จําเป็นเลยครับ เพราะมัน
ไม่มีประโยชน์อะไรเลย คุณควบคุมเธอไม่ได้ คุณมีอิทธิพลกับเธอบ้างเท่านั้นเอง
สอง คุณควรจะอยู่ในอารมณ์ที่ดี อันนี้เห็นกันได้ชัดๆ เพราะเวลาที่คุณ CF เธอ คุณกําลังจะทําให้เธอขํา
ถ้าคุณกําลังอารมณ์ไม่ดีอยู่ คุณจะทําให้เธอขําได้หรือครับ?
เวลาจะใช้ CF กับสาวๆ ให้คุณคิดว่า "อืมม ชั้นรู้ว่าเธอจะต้องชอบเพราะชั้นเป็นคน cocky funny
เธอจะต้องหัวเราะแน่ๆ" ให้คุณคิดแค่นี้เวลาจะใช้มันทุกครั้ง ซึ่งพอคุณบอกตัวเองอย่างนี้นานๆเข้า ต่อไปคุณไม่ต้องคิดอย่างนี้อีกเลย
เพราะคุณจะรู้สึกเอง มันจะซึมเข้าไปเป็นธรรมชาติของคุณเอง คุณก็จะเริ่มเป็น dj โดยธรรมชาติ
focus อยู่ที่ความสนุกของ CF อย่าไป focus ที่ตัวผู้หญิงว่าเธอจะตอบสนองยังไง
เอาล่ะครับ เมื่อทัศนคติถูกต้องแล้วผมก็อยากจะให้คุณรู้ถึง concept อีกอันนึงคือ
Be Sexual คือ การที่เป็นคนเปิดในเรื่องเพศ ไม่ซ่อนมันไว้ข้างใน
การที่เราเล่นหูเล่นตากับผู้หญิง , สัมผัสเธอ, พูดเรื่อง sex กับผู้หญิง (พูดเฉพาะเมื่อมันเหมาะสมเท่านั้น)
อย่างนี้ถือเป็นการที่เรา sexual ทั้งหมด ดูง่ายๆ เลยก็คือ Nice guy เป็นพวกที่ปิดในเรื่องเพศ เป็นพวก Non-sexual
Nice guy จะไม่กล้าทําในสิ่งที่ผมบอกข้างต้น เพราะพวกเค้านึกว่ามันจะทําให้ผู้หญิงกลัว ตกใจ และหนีไปจากเค้า
น่าสงสาร nice guy นะครับที่ไม่รู้ว่าผู้หญิงชอบผู้ชาย sexual
แต่การที่เรา sexual ไม่ใช่การที่เราหื่นกาม สองอย่างนี้ต่างกันนะครับ
ถ้าคุณเดินไปเจอผู้หญิงคนนึงยังไม่ได้รู้จักกันเลย คุณไปบอกเธอ "หน้าอกคุณใหญ่จังเลยครับ ผมชอบ"
เอ่อ... ถ้าไปพูดอย่างนี้ก็ตัวใครตัวมันครับ เพราะมันไม่ใช่ sexual แล้ว มันเกินไปกลายเป็นพวกบ้ากาม โรคจิต
เพราะฉะนั้นทําความเข้าใจให้ดีก่อนนะครับ
โอเค คราวนี้ผมอยากจะให้คุณใช้เทคนิค CF แต่ว่านํามันมารวมกับ Sexual ด้วย
เป็น CF + Sexual
"เอ๊ะ! แล้วมันทํายังนะ" คุณอาจจะยังสงสัยอยู่
ก้อไม่ยากครับ CF+ Sexual คือการพูดตลก แบบกวนๆ แซวนิดๆ และก็แฝงเรื่องเพศ เรื่อง sex เข้าไปด้วย
ทําไมถึงต้องใช้ CF + Sexual ?
จําได้มั้ยว่า ถ้าผู้หญิงรู้สึกสบายๆกับเราอย่างเดียวแต่ไม่รู้สึกว่าเราเปิดในเรื่องเพศ เราจะเป็นได้แค่เพื่อน
ถ้าผู้หญิงรู้สึกว่าเราเปิดในเรื่องเพศแต่ไม่รู้สึกสบายๆ relax เมื่ออยู่กับเรา เราจะกลายเป็น นายโรคจิต บ้ากาม
แต่ถ้ามันมีทั้งสองอย่าง เธอรู้สึกสบายๆ กับเรา และเราเป็นคนที่เปิดในเรื่องเพศ ผู้หญิงจะจัดเราไปอยู่ในกลุ่ม
ที่อยากจะเป็นแฟนด้วย
CF+Sexual ทําให้เรามีทั้งสองอย่างครับ เจ๋งมั้ยล่ะครับ อิอิ
และเมื่อไรที่คุณถนัดการพูดแบบ CF+Sexual แล้วละก็ เตรียมตัวโดนสาวๆเข้ามารุมได้เลย!!!
CF + Sexual
1. ผมไปเที่ยวผับนึงกับสาวที่ผมกําลังจีบอยู่ ซึ่งวันนั้นเธอรินเหล้าให้ผมบ่อยมากๆ ผมเลยบอก
ผม : "จะมอมเหล้าชั้นเหรอ?"
เธอ : "ใช่ ได้มั้ยล่ะ?" เธอพูดและก็รินเหล้าส่งให้ผม
ผม : "เสียใจด้วย ไม่ได้ ชั้นไม่ยอมให้เธอข่มขืนชั้นหรอกนะ" สบตาพร้อมยิ้มด้วยความมั่นใจ กวนๆ
เธอ : ยิ้มและส่งสายตา sexy
2. ผมได้นัดสาวไปทานข้าวที่ร้านอาหาร ทานเสร็จผมก็ขับรถจะไปส่งเธอ
ระหว่างที่ขับอยู่นั้น เธอก็ได้เอนมาซบไหล่ผม บรรยากาศเริ่มเป็นใจ
พอดีรถติดไฟแดง ผมเลยก้มลงไปจูบหน้าผากเธอ เธอสบตากับผมครู่นึง
แล้วเราก็จูบกัน (ตอนนั้นตอนกลางคืนครับ ดึกแล้วด้วย รถผมติดไฟแดงอยู่คันเดียว
ไม่มีรถข้างๆ และข้างหลังครับ ^_^ ) จากนั้นเธอก็ถามผมว่า
เธอ : "เป็นยังไง พอจะสู้สาวๆคนอื่นได้มั้ย?"
ผม : "อืมม อันนี้ต้องขอพิสูจน์ดูอีกครั้งนึงก่อน"
ผมก้มลงไปจูบเธออีกสักพักนึง แล้วก็พูดว่า
ผม : "โอ้ววว ทางสถาบันของเราขอมอบประกาศนียบัตรพร้อมทั้งโล่ห์ดีเด่นให้คุณ
ในฐานะที่คุณเป็นนักเรียนที่ทําคะแนนได้สูงสุด ทิ้งห่างคนอื่นๆขาดลอย"
เธอ : หัวเราะพร้อมทั้งเข้ามากอดผม
ผม : เห็นรถ taxi แล่นผ่านรถผมไปหนึ่งคัน ผมหันกลับไปมองสัญญาณไฟ พร้อมคิดในใจว่า
"ไฟแม่_เขียวตั้งนานแล้วนี่หว่า 55"
3.ผมได้คุยโทรศัพท์กับสาวคนนึงที่ผมจีบมาสักระยะแล้ว เริ่มที่จะรู้สึกสบายๆกันแล้ว
คุยกันสักพัก ผมบอก
ผม : "โอเค ไว้แค่นี้ก่อนละกัน เธอก็ไปนอนได้แล้ว มันดึกแล้ว"
เธอ : "อืม แล้วค่อยคุยกันใหม่"
ผม : "ได้ครับ แต่ว่าคืนนี้ไม่ต้องนอนฝันถึงผมก็ได้นะครับ" พูดทีเล่นทีจริง
เธอหัวเราะนิดนึงแล้วพูดว่า : "เดี๋ยวคืนนี้จะตามไปหลอกในฝันซะให้เข็ด"
4. ผมนัดสาวไปเที่ยว เธอแต่งชุดเกาะอกมา ผมเลยใส่ cocky funny ไปว่า
ผม : "แต่งชุดแบบนี้ ผมว่ามันอันตรายนะครับ" ทําทีเหมือนจะพูดจริงจัง
เธอ : "เหรอ มันโป๊เกินไปเหรอ"
ผม : "คือมันก็ไม่มากหรอก แต่กลัวว่าอีกสักพัก จากเกาะอกมันจะมาเกาะที่เอวนะสิ" ยิ้มกวนๆพร้อมส่ายหัว
เธอทุบผม : "หาว่าชั้นหน้าอกเล็กเหรอ"
5. อันนี้เอามาจากหนังเรื่อง FAKE เป็นฉากที่พระเอกคือลีโอ พุฒ เจออั้ม นางเอกเป็นครั้งแรกในผับ
พระเอกเห็นนางเอกนั่งอยู่คนเดียว ท่าทางเศร้าๆ จึงเข้าไปนั่งคุย คุยอะไรไม่รู้ จําไม่ได้ สักพักนางเอกก็พูด
นางเอก : "คุณรู้เหรอว่าชั้นเป็นคนยังไง?"
พระเอก : "รู้ คุณเป็นผู้หญิง ผมยาว ที่กําลังผิดหวังกับความรัก"
นางเอก : "แล้วอะไรอีกล่ะ?"
พระเอก : "แล้ว..คุณก็กําลังสนใจผม" ยิ้มที่มุมปากนิดนึง สีหน้า แววตานิ่งมองที่ตานางเอก
นางเอก : เซ็นส์ได้ว่าพระเอกไม่ใช่ nice gu
6. อันนี้ก็มาจาก FAKE หลังจากที่พระเอก ลีโอ พุฒมีอะไรกับนางเอกแล้ว ตอนเช้าตื่นขึ้นมา
พระเอกก็หอมนางเอกแล้วก็คุยกันสักพัก นางเอกก็พูดว่า
นางเอก : "คุณชอบชั้นตรงไหน?"
พระเอก : "ใครบอกว่าผมชอบคุณ?" ยิ้มนิดๆ
แต่พระเอกก็เจอเอาคืนเพราะดันไปถามเธอกลับว่า
พระเอก : "แล้วคุณล่ะชอบผมตรงไหน?"
นางเอก : "ใครบอกว่าชั้นชอบคุณ?"
***ใครได้ดูหนังเรื่องนี้จะเห็นว่าลีโอ พุฒ พระเอกที่ตอนแรกมีลักษณะกึ่ง jerk กึ่ง donjuan กลับกลาย
เป็น nice guy เต็มตัวหลังจากที่รู้จักนางเอกไม่นาน (การเป็น nice guy ไม่ใช่เรื่องผิดแต่ต้องทําในเวลาที่เหมาะสม
พระเอกค่อนข้างจะเป็นแมนมากโดยปกติ แต่หลังจากเจอนางเอกแล้วกลับเฝ้าเพ้อถึงนางเอก ตลอดเวลา
กลายเป็นโคตร nice guy)
หรือบางครั้งถ้าเราอยากจะดัดแปลงให้เป็น CF + Neg hit ก็สามารถทําได้ได้ (พูดตลก เสียดสีที่แฝงไว้ด้วยการแซวข้อบกพร่องของเธอ)
CF + Neg hit
7. ผมชวนสาวไปเที่ยว ระหว่างที่นั่งอยู่ในรถ เธอก็โชว์รูปที่เธอไปถ่ายมาให้ผมดู
เธอ: "เป็นไง น่ารักมั้ย?"
ผม : "อันนี้ คุณป้าที่ไหนมายืนโพสท่าอยู่เนี่ย?"
เธอ : ทําหน้างอนๆ แต่อมยิ้ม
ผม : "โอ๋ๆๆๆ ไม่เอาน่า ดูสิ งอนมากๆ ตีนกาขึ้นเลยนะ" เอามือไปแตะที่ตาของเธอ
เธอ : ทุบแขนผม (อีกแล้ว)
8. อันนี้ผมใช้ตอนที่เธอถามผมว่าทําไมผมถึงเข้าไปขอเบอร์เธอ
เธอ: "ทําไมถึงมาขอเบอร์(ชื่อเธอ)ล่ะ เพื่อน(ชื่อเธอ) สวยกว่า(ชื่อเธอ) อีกนะ เปลี่ยนใจยังทันนะ"
ผม : "ก็(ชื่อเธอ) เป็นผู้หญิงที่สะดุดตามากที่สุด" พูดเหมือนจะจริงจังอีกแล้ว ^_^
เธอ: "เหรอ สะดุดตายังไง?" ทําเสียงดีใจ
ผม : "ก็พอมองเข้าไปในกลุ่มแล้ว (ชื่อเธอ)เตะตามาก ตัวใหญ่ บึกบึน บดบังรัศมีคนอื่นๆหมดเลย
เห็นครั้งแรกแล้วรู้เลยว่า..ปกป้องเราได้ทั้งชีวิต" ยิ้มกวน
***มุขปกป้องเราได้ทั้งชีวิต ยืมมาจากเดี่ยวไมโครโฟนของ โน้ต อุดม
9. ผมไปเที่ยวผับกับเธอ เธอหยิบบุหรี่ขึ้นมาสูบ ผมมองไปที่คําเตือนบนซองเขียนว่า
"สูบบุหรี่ทําให้แก่เร็ว" ผมชี้ให้เธอดูคําเตือน เธอยิ้มนิดนึง ผมเอื้อมมือไปจับแก้มเธอ
แล้วก็พูด
ผม : "ไม่น่าเชื่อ การสูบบุหรี่ทําให้คนเราแก่เร็วจริงๆ" ผมส่ายหัวพร้อมกับถอนหายใจ
เธอ : หัวเราะแล้วก็แซวผมกลับว่า ผมก็แก่พอๆกับเธอนั่นแหละ
คําเตือน : ห้ามใช้ cocky funny มากเกินไป มิฉะนั้นอาจจะมีสาวๆมากมายมารุมล้อมโดยไม่รู้ตัวได้ ^_^
เคล็ดลับการจีบสาวมีแฟนแล้ว(แต่อยู่ไกล) - ใช้ได้ดีกับผู้หญิงที่อ่อนกว่า
1. อย่ายอมรับว่าเรากำลังจีบเขาอยู่ - ถึงแม้ว่าเขาจะถามมาตรงๆ หรือถามวกวนอย่างไรก็ตาม
บอกแค่ว่าไม่คิดอะไร แค่เป็นเพื่อนคนหนึ่ง คบแล้วสบายใจดี ผิดด้วยหรือ ทำให้เขารู้สึกผิดที่ถามมา
(ถ้าตอบไปว่าใช่ ก็แหวกหญ้าให้งูตื่นสิครับ เธอก็ไม่กล้าพูดคุยด้วยพอดี ผู้หญิงก็รู้สึกผิดต่อแฟนเป็นนะ)
2. พยายามทำดีด้วยให้มากที่สุด พูดจากให้กำลังใจ ทำตัวให้เป็นผู้ใหญ่ (สำคัญนะ) ห้ามหึงหวง -
ทำดีไปเถอะตอนนี้ ทำไปมากๆ เหมือนการหาเสียง พอเค้าเปลี่ยนใจจากคนที่เค้าคบแล้ว
เราก็ค่อยเปลี่ยนพฤติกรรมบ้างก็ได้ ไม่ผิดนิ -
โดยปกติ 80% ขึ้นไป แฟนเก่าเขาจะมีอายุพอๆกัน (เพราะคบกันตอนเรียน)
ดังนั้น จำเป็นอย่างยิ่งที่คุณจะต้องทำตัวเป็นผู้ใหญ่ มีความรับผิดชอบ ใจเย็น และทำทุกอย่างให้เธอได้
ไปรับไปส่ง โทรไปหา อย่าขัดใจเธอนัก แต่ก็มีแซวๆบ้างได้ ให้เธอรู้สึกเป็นกันเอง และชื่นชมในตัวคุณ
3. อย่าพูดถึงแฟนเขานัก แม้ว่าเธอจะพยายามชักจูงเข้าไปหาเรื่องแฟนเธออย่างไร ก็พยายามทำเหมือนไม่ได้ยิน
หรืออาจจะพูดว่า อือ อือ แต่ไม่ใส่ใจ ทำเหมือนว่ามันไม่มีตัวตนอยู่ในโลก หรือนานๆทีจะเล่นมุขชมไปบ้างว่า
ดูรักกันดีจังนะ ดูเธอรักเขาจัง เขาคงเหมือนกันใช่หรือป่าว ให้สาวเจ้าเริ่มลังเล แต่อย่าทำให้เหมือนดูประชดนะครับ
ตอนนี้เธอยังภูมิใจ และยังรักแฟนเก่าเธออยู่
4. ให้กำลังใจ และปลอบใจเมื่อเค้าทะเลาะกับแฟน - อย่าเพิ่งไปยุเขาให้เลิกกับแฟนอย่างโจ่งแจ้งนะครับ
คอยปลอบเขา บอกเขาว่าถ้าไม่สบายใจก็พูดคุยกันได้ ถ้าเขาบอกว่าไม่ค่อยสบาย ไม่ค่อยอยากคุย ก็อย่าคะยั้นคะยอ
รอไปก่อน แล้วค่อยโทรไปใหม่ ชวนออกไปหาอะไรทำให้เขาสบายใจขึ้นวันหลัง -
พอวันหลังเขาไปคุยกับแฟน แฟนเขาก็จะหึงอีกที่มาคุยกับเรา แล้วก็จะทะเลาะกันอีก - ก็กลับมาในรูปแบบเดิมครับ
ปลอบต่อ สร้างฐานคะแนนเสียงไปเรื่อยๆ
5. รอเวลา - สำคัญมากครับ อย่าทำอะไรบู่มบ่าม รอให้เขาจะเลาะกันให้พอ เริ่มให้สาวเจ้ารู้สึกว่า
แฟนในปัจจุบันรักเธอจริงหรือป่าว ทำไมทำให้เธอไม่สบายใจยันเลย ( แล้วเธอละ ทำอย่างนี้ แฟนคงสบายใจด้วยหล่ะนะ ก็มันหึงนี่หว่า)
6. ทำความดีต่อไปเรื่อยๆครับ ทำให้สาวเจ้าสบายใจที่สุดที่อยู่กับคุณ ! ถ้าโอกาสดีๆ ก็แกล้งคุยไป ถามว่าความรักเป็นอย่างไรบ้าง
เค้ารักเธอจริงหรือป่าวนะ เห็นหมู่นี้ไม่ค่อยสบายใจนี่ ทำไมเขาทำให้เธอเป็นอย่างนี้ล่ะ ก็รักจริงไม่ใช่หรือ - ที่สำคัญ
ทำให้แนบเนียนนะครับ วางมาดดีๆ ทำให้คุณดูเป็นผู้ใหญ่มากกว่าเธอประมาณ 10 ปี ให้เธอรู้สึกเหมือนกับว่าปรึกษาผู้ใหญ่ที่เธอไว้ใจอยู่
7. เมื่อโอกาสมาถึง สาวเจ้าจะส่ง signal ประมาณว่าขอเป็นเพื่อนกับแฟนเธอ สาวเจ้าจะบอกแฟนเธอว่า ยังรักอยู่
รอกลับมาทำดีด้วย แล้วกลับไปเป็นเหมือนเดิม หรือว่า เธอรักเราจริงหรือป่าว ทำไมต้องทำตัวเป็นเจ้าของเราด้วยล่ะ
ทำไมต้องทำให้เราไม่สบายใจด้วย
8. ครับ... ผู้ชายพอได้ฟังก็จะอึ้ง ยิ่งคบกันมานานเท่าไหร่ ก็จะอึ้งนานเท่านั้น แฟนจะเริ่มรู้สึกว่าสาวเจ้าเริ่มทำตัวออกห่าง
แล้วก็จะหึงหนักและทะเลาะกันครับ แล้วเรื่องก็จะบานปลายมากขึ้น คุณพ่อ คุณแม่เธอเห็นเธอร้องไห้หรือครับ
แฟนในปัจจุบันก็จะเป็นคนเลวในทันที ไม่ต้องมีการแก้ตัว และก็จะช่วยกีดกันมันออกไปจากชีวิตเธอให้คุณโดยอัตโนมัต
9. เมื่อปัจจัยอื่นๆมันมากขึ้นเป็นเงาตามตัว ปัญหามาก แฟนเขาก็ต้องมีท้อบ้างครับ เริ่มรู้สึกว่าเราไม่ดีพอหรือป่าว
ไม่รักเธอจริงหรือป่าว (ใช้ได้ดีมากสำหรับแฟนเก่าที่รักเธอย่างจริงใจ หรือคบกันมานานมาก) เริ่มรู้สึกว่า
ควรจะให้เธอลองทำตามความต้องการ (ที่โดนยุแหย่จากคุณ) ซักหน่อยดีไหม สุดท้ายเขาก็ต้องยอมรับกับการคบเธอเป็นเพื่อน
ส่วนเรื่องที่เขาจะแย่งเธอคืนมาจากคุณหรือครับ ก็เขาเหนื่อยกับสิ่งที่ทำให้เธอแล้ว และเกิดความท้อใจเพราะคิดว่าสิ่งที่เค้าทำ
ที่มันดีที่สุดแล้ว มันยังไม่มีค่าพอที่จะเหนี่ยวรั้งตัวเธอเอาไว้ได้ กว่าเค้าจะเรียกกำลังใจคืนมาได้
ป่านนั้นคุณก็เข้าไปนั่งในตำแหน่งของเขาในใจเธอเรียบร้อยแล้วหล่ะ
9. คราวนี้ตาคุณแล้ว ค่อยๆเข้าไปให้ความสบายใจเรื่อยๆเหมือนปกติ ในใจคุณตอนนี้ ก็จะได้กระหยิ่มยิ้มย่องกับความสำเร็จของคุณ
รอเวลาอีกนิด ก็จะได้เธอมาครอบครองสมใจ โดยไม่มีแฟนเก่าของเธอเป็นก้างขวางคออีกต่อไปคุยอย่างไรให้หลงคารม
Story By: นิรนาม
ว่ากันว่า ผู้หญิงน่ะคลั่งไคล้การคุยโทรศัพท์ จะตายชัก
แต่พูดงี้ไม่ได้หมายความว่าฝ่ายชายจะไม่ชอบโทร.ไปโน่นมานี่ หรือแม้แต่โทร.ไป
ตามตื๊อหรือจีบใครต่อใครหรอกนะ
ด้วยเหตุนี้ ถ้าคิดจะตะล่อมใครให้ “ใจอ่อน” ทางโทรศัพท์ ล่ะก็ ลองทำตามนี้สิ
วิธีที่ 1. ปากน่ะมีไหม? ถ้ามี โทร.ไปหาเลย แล้วอ้างว่ามีอะไรจะคุยด้วย ถ้าคุณเป็นฝ่ายโทร.ไปหาใครสักคนนึงก่อน เรียกว่า อุตส่าห์เป็นฝ่ายเปิดฉากแล้วเนี่ยนะควร แน่ใจว่า มีเรื่องสำคัญที่จะคุยด้วยจริงๆ สิ่งที่จะทำให้อีกฝ่ายสนใจคุยด้วย เช่นโทร.ชวนเค้าออกไปเที่ยว ดีมะ ไม่งั้นก็ชวนไปทานข้าวสักมื้อก็ยังดี แต่ถ้าไม่ชวนไปทำกิจกรรมอะไรกันเลย ก็โทร.ไปชมเค้าสักนิดสักหน่อยทำปากหวานไว้ก่อนเพื่อเก็บคะแนนนิยมล่วงหน้าก็ได้นี่ โทร.ไปเลียกันบ่อยๆถ้าเค้าตกหลุมพรางก็โป๊ะเชะลงตัว น่ะซี้ถามได้
วิธีที่ 2. ทำให้การคุยโทรศัพท์กับคนที่คุณหมายปองมีความเป็นกันเอง ผู้ชายบางคนอาจคิดว่า การคุยโทรศัพท์นั้นไม่เห็นจะเป็นกันเองตรงไหนเลย สู้มาพูดกันซึ่งๆหน้าไปเลยไม่ดีกว่ารึ เผื่อจะได้จับได้คลำเอ๊ย...ได้เจรจาต้าอ้วยกันถึงกึ๋นมากกว่าแค่คุยผ่านโทร ศัพท์ก็ได้ความคิดแบบนี้จะตรงข้ามกะผู้หญิงนะ เพราะสาวๆกลับคิดว่า การคุยโทรศัพท์คือหนึ่งในหลายวิธีในการติดต่อสื่อสารที่เป็นกันเองมากที่สุด ลองสังเกตดูสิผู้หญิงบางคนใช้เวลา เป็นชั่วโมงๆคุยและถกเถียงกันกับเพื่อนในเรื่องส่วนตัว,สิ่งที่เธอกลัวไปจนถึงสิ่งที่ทำให้หล่อน ดีใจมากที่สุดได้อย่างไม่เคอะเขิน
วิธีที่ 3. ทำอย่างอื่นไปด้วยขณะคุยโทรศัพท์... ถ้าสามารถ อย่าแม้แต่จะคิดเชียวว่า การโทรศัพท์สำหรับผู้หญิงน่ะถือเป็นเรื่องเสียเวลาเพราะแท้จริงแล้ว ผู้หญิงน่ะชอบคุยโทรศัพท์โดยถือเป็นการใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์หลังจาก เผชิญเรื่องบ้า บอคอแตกมาทั้งวันหนำซ้ำการคุยโทรศัพท์ก็ไม่จำเป็นหรอกที่คุณจะต้องใจจดใจจ่อกับการพูดคุยแต่เพียงอย่างเดียว เพราะคุณสามารถทำงานอื่นนอกเหนือไปจากสนทนาอย่างออกรสออกชาติกับหวานใจของคุณได้ในกรณี ที่มีงานอื่นติดพันต้องทำนะ ก็ทำไปซิแต่อย่าเป็นจอมลามกโทร.ไปเกี้ยวสาว หวังทำรักกะตัวเองก็แล้วกัน
วิธีที่ 4. สนแต่เพียงโทรศัพท์อย่างเดียวยิ่งดี จะได้ไม่เสียสมาธิจีบกันให้มันยกร่องไปเลย บางคนตอนใช้โทรศัพท์จะไม่สามารถทำอะไรอื่นควบคู่ไปด้วยได้ งั้นจงมีสมาธิแต่กับการเจื้อยแจ้วจำนรรจากับดาร์ลิ่งของคุณไปเหอะ อย่ากระแดะทำอะไรหลายอย่างให้มั่วจนเกินไปนักเลยเช่นคิดดูเดะว่า คุณคุยโทรศัพท์ไปด้วยพร้อมกับตัดเล็บไปด้วยได้ไหม?หรือคุณคุยโทรศัพท์ไป ด้วยพร้อมกะดูหนังด้วยได้ อะป่าว? ถ้าไม่ได้ก็จงใช้โทรศัพท์แบบรู้จักกาลเทศะซะเถอะ ยิ่งถ้าโทรศัพท์ไปด้วยขณะขับรถไปด้วยก็หวาดเสียวว่าจะเกิดอุบัติเหตุนะจ๊ะ โอ้ยอะไรจะธุระปะปังเยอะซะจนต้องคุยมันทั้งวันทั้งคืนเชียว อีกอย่างตอนเพิ่งจีบกันใหม่ๆ กรุณาอย่าสะเออะโทรศัพท์หาแฟนไปด้วยและทำอะไร อย่างอื่นไปด้วยเลยขอร้อง ขืนอีกฝ่ายเกิดจับได้ไล่ทันขึ้นมาล่ะว่าคุณไม่ได้ตั้งใจฟังเค้าพูดสักหน่อย ได้แต่ อือๆ หือๆหาๆไปตามเรื่องเดี๋ยวเหอะถ้าอีกฝ่ายรู้สึกลึกๆอยู่ในใจว่า เห็นกูไม่สำคัญแล้ว โทร.มา ทำไม?เป็นงี้ขืนเหยื่อไม่ หลงกลก็แย่น่ะเซ่
วิธีที่ 5. ถามคำถามที่พยายามให้อีกฝ่ายตอบมากกว่าแค่คำว่า ใช่ หรือไม่ใช่
ตั้งคำถามให้อีกฝ่ายอยาก ตอบมากกว่าเยส หรือโน ดีกว่าน่า
ไม่งั้นจะเป็นบทสนทนาที่ง่ายเกินไป และแทบจะไม่มีความหมายอะไร
ต่อไปนี้คือตัวอย่างของคำถามปลายเปิด เพื่อให้อีกฝ่ายได้เมาท์แตกอย่างเต็มที่ เช่น
ถามถึงความ สัมพันธ์ระหว่างสมาชิกในครอบครัวของเค้าดูก็ได้
มันคงไม่ถึงกะเป็นคำถามละลาบละล้วงเกิน ไปนักหรอก
แต่ถ้าเผื่อเพิ่งคบกันก็อย่าไปคาดคั้นถามเรื่องส่วนตัวให้ลึกซึ้งจนเกินไปนะจ๊ะ
ค่อยๆรู้จักและค่อยๆเพาะบ่มความรักกันไปเรื่อยๆก็ได้นี่ ถ้าไม่มีการตีท้ายครัว
เอ๊ย...ตีตัวห่าง จากกันไปซะก่อน ค่อยเรียนรู้เรื่องส่วนตัวกันทีหลังก็ได้
วิธีที่ 6. ทำตัวเป็นผู้ถือไพ่เหนือกว่าในการคุยโทรศัพท์ซี้
ถ้าอยากเป็นผู้ถือไพ่เหนือกว่าในการคุยโทรศัพท์ละก็ สิ่งที่ควรทำก็คือ “ถาม”...ใช่แล้ว
คุณควร เป็นผู้ถาม ถามโน่นถามนี่ ถามไปเรื่อย แต่ควรผลัดให้อีกฝ่ายถามบ้างก็ดีนะ
และไม่ควรตกอยู่ใน ฐานะเป็นผู้ตอบ, ตอบมันยันป้ายก็ไม่ดีอีก
เพราะขืนเป็นงี้อีกฝ่ายสามารถหลอกถามจนคุณตกเป็น เบี้ยล่างได้นะเออ
วิธีที่ 7. เพียรพยายามทำให้เค้าอยากคุยต่ออีกนิด
คุณคิดว่า ใครเซ็กซี่กว่ากันล่ะระหว่างปีเตอร์ ปาร์กเกอร์ (ไอ้แมงมุมในคราบมนุษย์)
กับสไปเดอร์ แมน (ไอ้แมงมุมตอนปฏิบัติภารกิจปราบอธรรม?) แหงล่ะ
ร้อยทั้งร้อยย่อมตอบว่าไอ้แมงมุมสิ เพราะซุปเปอร์ฮีโร่รายนี้น่ะ ดูลึกลับและน่าค้นหา
ดังนั้นจงอย่าเพิ่งบอกดาร์ลิ่งผ่านสายโทรศัพท์ ไปซะทุกอย่าง เก็บให้เป็นปริศนาบ้างก็ได้
รับรองไม่ผิดกติกาแน่นอน
วิธีที่ 8. จบการคุยโทรศัพท์อย่างน่าประทับใจ
ทำมั้ย ทำไมการพูดคุยทางโทรศัพท์ต้องมีการวางสายด้วยนะ (แหม...เสียดายจัง) เพราะฉะนั้น
ก่อนวางสาย อย่าพูดเชียวว่า “ต้องไปล่ะนะ”
แต่ควรบอกว่า“ดีใจจังที่ได้คุยด้วยและหวังว่าจะได้ คุยกันอีก”
หลังจากนี้ถ้าอีกฝ่ายกลายเป็นโทร.มาหาคุณก่อนละก็ เชื่อได้เลยว่าเค้า
เห็นคุณเป็นคนน่าคุยด้วยแล้วล่ะ อ๊ะงั้นไชโยล่วงหน้าดีกว่ามะ
หนทางสู่ความสำเร็จ
Story By: ต๋อง
สวัสดีครับเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ชาวเวปจีบสาวดอทคอมทุกคน
ผมก็เป็นชายคนนึงที่กำลังเริ่มสั่งสมประสบการณ์ในการจีบสาวเหมือนพวกคุณหลายๆ
คนนั่นแหละครับ ผมเองก็ยังไม่เคยประสบความสำเร็จในการจีบสาวมาก่อนเลย
แต่ผมไม่ท้อถอยแน่นอนครับ ผมจะต้องทำมันต่อไป และจะทำมันให้ดีที่สุดด้วย
เหมือนคำที่ว่า "เสียใจที่ได้ทำ ดีกว่ามาเสียใจในสิ่งที่ไม่ได้ทำ" จริงไหมครับ
เอาละผมเข้าเรื่องเลยดีกว่านะจากที่ผมได้เข้ามาเจอเวปจีบสาวตอนแรกๆ
ผมก็คิดว่าหัวข้อบทความที่ลงในเวปเป็นข้อๆ น่าสนใจมาก และอยากเป็นสมาชิก
เพื่อจะได้รู้เคล็ดลับเอาไปใช้ ก็ชั่งใจอยู่หลายวันเพราะกลัวถูกหลอก
แต่สุดท้ายผมก็ตัดสินใจสมัคร เป็นไงเป็นกัน พอได้เป็นสมาชิกและอ่านบทความต่างๆ
ในเวป ผมรู้เลยว่าผมนี่มัน nice guy ชัดๆเลย
เพราะว่าตอนที่ผมเริ่มจีบสาวคนนึงใหม่ๆ เธอทำงานอยู่ที่ทำงานเดียวกับผม
แต่ว่าเราอยู่กันคนละฝ่ายกันครับ พอดีเจอเธอตอนพักกลางวัน
พอเห็นเธอก็รู้สึกว่าเป็นคนมีบุคลิกดี อยากรู้จักก็พยายามจนได้รู้ชื่อและเบอร์โทรที่ฝ่ายของเธอ
ผมโทรไปคุยกับเธอทุกวันเลยพอได้เวลาใกล้ๆ จะเลิกงาน มีซื้อขนมไปฝากเธอบ้างครั้งสองครั้ง
ทุกครั้งที่ผมโทรไปเธอจะไม่ค่อยพูดกับผมเท่าไหร่
มีแต่ผมต้องคอยนึกเรื่องที่จะคุยกับเธอตลอดเลย ผมพยายามขอเบอร์มือถือ
แต่เธอก็ไม่ยอมให้ ชวนไปเที่ยวด้วยเธอก็ไม่ยอมไปด้วย
จนมารู้อีกทีว่าเธอมีเจ้าของแล้ว ผมก็เลยลองโทรไปถามเธอตรงๆ
เธอก็บอกว่าเธอมีแฟนแล้วจริงๆ ผมก็ตัดสินใจเลยว่าในเมื่อเธอมีแฟนแล้ว
และตลอดเวลาที่ได้พูดคุยกัน ก็รู้สึกเหมือนกันว่าเธอไม่ค่อยสนใจเราเท่าไหร่
ฉะนั้นเราก็ไม่ต้องสนใจเธอหรอกจากนั้นผมก็เริ่มต้นใหม่จนได้มาเป็นสมาชิกเวปนี้ และเคยลองจะไปขอเบอร์สาวๆ ดู แต่ก็ทำไม่สำเร็จเพราะความไม่กล้าของผม
และรอจังหวะต่างๆ นาๆ จนในที่สุดตอนนี้ผมได้ตัดความไม่กล้าของผมออกไปได้บ้างแล้ว
และได้เบอร์สาวๆมาเหมือนกัน แต่ผมคิดว่าผมยังต้องพัฒนา และปรับปรุง ไปเรื่อยๆ
เพื่อความสำเร็จของผมที่จีบหญิงติดมีแฟนเหมือนคนอื่นๆ เขาบ้าง
ขอบคุณที่อ่านจนจบนะครับ และขอให้เป็นกำลังใจให้ผมพัฒนาเป็นต้องการ
เพื่อเป็นรางวัลที่ผู้หญิงต้องการต่อไปนะครับ