Wednesday, April 22, 2009

กินให้ผอม 1


กินให้ผอม วิธีการสามประสาน 1
คน อ้วนหลายคนอยากจะผอม วิธีลดความอ้วนทำได้ไม่ยาก เพียงเดินเข้าคลินิกลดความอ้วน ใช้บริการสักพักหุ่นจะผอมโกรกลงทันตาเห็น แต่หลายคนพบว่าลดความอ้วนได้สำเร็จผอมเพรียวอยู่ไม่นานจะกลับไปอ้วนได้ เหมือนเดิมอีก ปัญหาอย่างนี้ฝรั่งเขาเรียกว่า โยโย หรือ YOYO effect มีวิธีการที่เรียกว่าวิธี สามประสาน คือ ใจ อาหาร และกาย ริชาร์ด ซิมมอนส์ (Richard Simmons) นัก โภชนาการและนักเขียนชาวอเมริกันเคยเขียนเป็นหนังสือพ็อกเก็ตบุ๊กขายดีเมื่อ นานมาแล้ว ปัจจุบันวิธีการนี้กลับมาได้รับความนิยมอีกครั้งหนึ่งพวกเราอาจลองนำมาดัด แปลงทดลองใช้ดูก็ได้ให้กำลังใจตนเอง การกินให้ผอมต้องเริ่มด้วยการทำลายวงจร ยิ่งอ้วน-ยิ่งกิน-ยิ่งกิน-ยิ่งอ้วน ให้ได้เสียก่อน สิ่งแรกคือต้อง ให้กำลังใจตนเอง
ขั้นแรก
คือ เมื่อตื่นขึ้นทุกเช้าลองเดินไปสำรวจรูปร่างของตนเองหน้ากระจกแล้วให้สัญญา แก่ตนเองว่าวันนี้รูปร่างต้องดีขึ้นให้ได้ ทั้งนี้ เพื่อทำลายความรู้สกด้านลึกที่ฝังลึกอยู่ในจิตใจออกให้หมด ให้รู้ว่าการลดความอ้วนนั้นยังมีหนทางทำได้ ในปัจจุบันยอมรับกันว่าการปลุกตนเองให้ลุกขึ้นสู้กับปัญญหาและโรคภัยเป็น หัวใจการต่อสู้ที่สำคัญที่สุดเรื่องหนึ่ง
การฝึกจิตขั้นที่สอง
คือ หลังมื้ออาหารทุกครั้งหากเกิดอาการอยากอาหารขึ้นมาอีก ให้ถามตนเองว่าจำเป็นต้องกินอีกจริงหรือ ไม่กินได้หรือไม่ปัญหาของความอ้วนคือหลังมืออาหารมักจะกระวนกระวายเที่ยว ควานหาของกินอีก ดังนั้นจึงต้องถามตนเองว่าอยากกินอะไร เมื่อได้คำตอบแล้วให้ถามต่ออีกว่าจำเป็นต้องกินหรือไม่ หากได้ถามตัวเองอยู่บ่อยๆ จะเกิดความกระดากใจจะเลิกกิน ไปได้เองการกินจุกจิกหลังมื้ออาหารทำให้อ้วนง่ายที่สุด เพราะพลังงานจากจะกินจุกจิกนั้นจะเป็นพลังงานส่วนเกินซึ่งถูกนำไปสะสมเป็น ไขมันในทันทีเรื่องหนึ่งที่ต้องจดจำไว้ก็คือทุก 250 แคลอรีที่ร่างกายได้รับเกินมาหรือเท่ากับพลังงานจากมันฝรั่งทอด 1 ถุง หรือไอศกรีม 1 ก้อน หรือช็อกโกแลต 1 แท่ง จะทำให้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น35 กรัม หนึ่งเดือนน้ำหนักจะเพิ่มขึ้น 1 กิโลกรัม ปีหนึ่งเพิ่มขึ้นได้ถึง 12 กิโลกรัม ดังนั้นจึงต้องหาหนทางลดอาหารว่างหลังมื้ออาหารลงให้ได้
การฝึกจิตขั้นที่สาม
คือ การกำหนดในใจว่า น้อยเหมือนมาก ทุกครั้งที่ตักอาหารเข้าปากให้คิดในใจเตือนตนเองให้ได้ว่าอาหารคำน้อยนี้ แหละที่จะกลายเป็นคำใหญ่ ทำให้อ้วนขึ้นได้ในเวลาไม่นานต่อจากนี้ ฝึกอย่างนี้ไปเรื่อยๆ ในที่สุดจะเริ่มรู้สึกว่าการรับประทานอาหารจะกลายเป็นเรื่องที่ยากขึ้น
การฝึกจิตขั้นสุดท้าย
เรียก ว่า คำปลอบใจท้ายวัน เมื่อถึงเวลาเย็นลองไปยืนหน้ากระจก สำรวจตนเองให้ทั่วแล้ปลอบใจตนเองว่าน้ำหนักตัวลดไม่ได้ในเวลาดันรวดเร็ว จะต้องค่อยๆลด หากวันนี้ลดไม่ได้พรุ่งนี้จะต้องลดน้ำหนักลงให้ได้ทำอย่างนี้เพื่อป้องกัน ไม่ไห้เกิดความท้อแท้เลิกลดน้ำหนักเสียก่อนการ ให้กำลังใจนั้นเป็นเรื่องจำเป็น ให้กำลังใจตนเองทุกวัน ฝึกจิตฝึกความแน่วแน่ของจิตใจให้สม่ำเสมอ ความรู้สึกเกลียดตัวเองที่เคยเป็นอยู่จะละลายหายไปที่ละน้อย ความเคารพ ความเข้าใจต้นเองจะเพิ่มมากขึ้นจิตใจจะค่อยๆ ประสานกับการจำกัดปริมาณอาหารได้ในที่สุด

1 comment:

แปลภาษาฝรั่งเศส said...

ผมขออนุญาตเจ้าของบล็อกประชาสัมพันธ์เรื่องการบริจากโลหิตหน่อยนะครับ คือผมเพิ่งไปบริจากมาเลยทำให้ได้ความรู้มาอยางนึง ซึ่งคิดว่าเป็นเรื่องที่คนส่วนใหญ่ก็คงจะไม่รู้เช่นกัน ทราบหรือเปล่าครับว่าคนเราที่จริงแล้วมีเลือดส่วนเกินที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ คือปกติร่างกายเราต้องการเพียง 15-16 แก้ว แต่เรามีมากถึง 17-18 แก้ว นั่นก็คือมีเลือดส่วนเกินที่ไม่ได้ใช้ครับ แล้วส่วนเกินนี้ปกติมันจะไปที่ไหนครับ ก็ถูกขับทิ้งออกมาทางปัสวะนั่นเอง ดังนั้นอย่าให้มันเสียเปล่าเลยครับ ไปบริจากให้คนที่เค้าต้องการดีกว่า ขอขอบคุณท่านเจ้าของบล็อกมากครับ การช่วยเผยแพร่ข้อมูลก็ถือเป็นบุญกุศลอย่างมากเลยครับ