Saturday, February 15, 2014

เมื่อไหร่ที่ควรซื้อ/ขายหุ้น

เมื่อไหร่ที่ควรซื้อ/ขายหุ้น
เมื่อไหรที่ควรซื้อขายหุ้น ประสบการณ์ในตลาดหุ้นของคุณอาจทำให้คุณมีความ
คิดเห็นแตกต่างออกไป
- หุ้น xyz เคยซื้อขายอยู่ที่ 40 บาท และตอนนี้มันตกลงมาเหลือ 25 บาท นี่เป็นจังหวะที่จะซื้อ
หรือยัง
ตอบ : อาจจะ แต่การซื้อหุ้นเพียงเพราะมันดูเหมือนว่าจะราคาถูก ไม่ใช่ความคิดที่ดีเอาเสียเลย บ่อยครั้ง
จะพบว่าราคาหุ้นที่ว่าถูกแล้ว ราคาของมันก็ยังคงลงต่อ (เช่น หุ้น ITV ที่เคยซื้อขายอยู่ที่ราคาราวๆ 30
บาทกว่าในปี 2003 จากนั้นมันก็เริ่มตกลงมาที่ 17 บาทในช่วงกลางปี 2004 เกือบครึ่งหนึ่งของราคาที่
เคยซื้อขาย ซึ่งก็ดูเหมือนราคาจะถูกมากเลย แต่คุณคงทราบว่าเกิดอะไรต่อมา) ดังนั้น คุณจึงไม่ควรรีบซื้อ
หุ้นเพราะราคามันลงมาครึ่งหนึ่งแล้ว แต่ควรรอจนกว่าหุ้นตัวนั้นเริ่มวกกลับแสดงการสิ้นสุดของช่วงขาลง
หรือแสดงถึงความเข้มแข็งของราคาหุ้นหรือธุรกิจ ซึ่งคุณสามารถหาข้อมูลเหล่านี้ได้จากโบรเกอร์ของคุณ
- ฉันต้องการที่จะขายหุ้นที่จุดสูงสุด ฉันจะต้องทำอย่างไร
ตอบ : ถ้ามีใครรู้ว่าต้องทำอย่างไร เขาก็คงไม่มาบอก เครื่องมือทางเทคนิกบางตัวเช่น RSI อาจจะช่วย
คุณได้บ้าง การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานเช่น P/E หรือ P/D สามารถแนะคุณได้ว่าราคาสูงเกินไปหรือไม่
- พอมีแนวทางอะไรบ้างสำหรับการขายหุ้นเมื่อมีกำไร
ตอบ : เนื่องจากคุณไม่มีทราบว่าจุดสุงสุดอยู่ที่ราคาเท่าไหร คุณก็อาจจะขายหุ้นเร็วเกินไป หรือช้าเกินไป
ก็ได้ ถ้าคุณขายเร็วเกินไป คุณก็จะไม่ได้กำไรในส่วนที่หุ้นวิ่งขึ้นไปอีก แต่ถ้าหุ้นขายช้าเกินไป ราคามนั ก็
อาจจะตกลงอย่างรวดเร็วจนอาจทำให้คุณต้องขาดทุนก็ได้ วิธีหนึ่งที่คุณอาจทำได้ก็คือ เมื่อคุณมีกำไร
ประมาณ 20% แล้ว คุณก็อาจขายหุ้นออกไปก่อน 80% ของหุ้นที่คุณมีอยู่ เพื่อป้องกันกำไรส่วนนี้ไว้
แล้วค่อยขายส่วนที่เหลือที่หลังหากราคายังวิ่งต่อ หรือคุณอาจใช้วิธีวิเคราะห์ทางเทคนิก คือเมื่อราคาหุ้น
ขึ้นมาจนใกล้ถึงแนวต้านคุณก็ทะยอยขายหุ้นออกบางส่วน ถ้าหุ้นไม่สามารถทะลุแนวต้านได้ คุณก็ค่อย
ขายส่วนที่เหลือออก แต่ถ้าหุ้นทะลุแนวต้านนั้นไปคุณก็ถือหุ้นส่วนที่เหลือไว้จนกว่าจะถึงแนวต้านถัดไป
- บ่อยครั้งจะเห็นว่าราคาหุ้นจะตกอย่างมากมาย เพียงเพราะมีข่าวไม่ค่อยดีเกี่ยวกับบริษัท
เล็กน้อย ทำไมถึงเป็นอย่างนั้น
ตอบ : คำถามนี้อาจสามารถตอบได้ด้วยทฤษฎีแมลงสาป (Cockroach theory) คือถ้าคุณเห็นแมลง
สาปเพียงหนึ่งตัวในบ้าน นั้นหมายความว่ามันอาจมีอีกมากซ่อนอยู่ ถ้ามีข่าวไม่ดีหลุดลอดออกมาเพียงข่าว
เดียว ก็อาจมีเรื่องอื่นๆ อีกที่ยังไม่เป็นข่าว เช่นเดียวกัน ถ้ามีหุ้นตัวหนึ่งในอุตสาหกรรมประสบปัญหา นั่นก็
น่าสงสัยว่าหุ้นในกลุ่มเดียวกันก็อาจจะประสบปัญหาเช่นกัน
- ผมเห็นข่าวดีเกี่ยวกับหุ้นตัวหนึ่งในหนังสือพิมพ์ ผมควรจะซื้อหุ้นนั้นเลยหรือไม่
ตอบ : ไม่จำเป็น ทุกคนเห็นข่าวนั้น และราคาหุ้นก็ได้ตอบสนอกกับข่าวนั้นแล้ว
- ผมไม่ต้องการเป็นนักลงทุนระยะสั้น มีโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่สามารถช่วยผมในการลงทุน
ระยะยาวหรือไม่
ตอบ : อาจจะมี ถ้าคุณตัดสินใจซื้อหุ้นหนึ่ง แต่ราคาของมันยังคงตกอยู่ คอมพิวเตอร์อาจสามารถช่วยให้
คุณหาจุดซื้อที่ราคาหุ้นน่าจะไม่ตกลงไปอีกได้ แต่คอมพิวเตอร์ก็อาจทำให้คุณงุ่มง่ามมากกว่าใช้เครื่องคิด
เลข โปรแกรมเหล่านี้ไม่ฟรี การดึงข้อมูลราคาต่างๆ ก็ไม่ฟรี และคุณยังต้องหาเวลามาศึกษาเพื่อให้เข้าใจ
ถึงเครื่องมือต่างๆ ว่ามันบอกอะไรคุณ ถ้าคุณพร้อมที่จะเสียเงินซื้อคอมพิวเตอร์ โปรแกรม และค่าสมาชิก
เพื่อดึงข้อมูล คุณก็อาจถามจากโบรเกอร์คุณเกี่ยวกับโปรแกรมดังกล่าว
- ช่วยอธิบายความหมายของ market action, group action และ individual stock
action
ตอบ : ทุกวัน ราคาหุ้นบางตัวขึ้น หุ้นบางตัวลง และบางตัวไม่เปลี่ยนแปลง Market action จะบอกถึง
ภาพรวมทิศทางของตลาดว่าหุ้นส่วนใหญ่ขึ้นหรือลง ซึ่งดูได้จาก SET Index ว่าขึ้นหรือลง Group
action นั้นจะพิจารณาเฉพาะกลุ่มอุตสาหกรรมนั้นๆ เช่น หุ้นกลุ่มแบงค์และกลุ่มพลังงานเป็นกลุ่มที่กำลัง
ขึ้นอยู่ขณะนี้ เพราะต่างชาติเข้ามาซื้อ เป็นต้น Individual stock action ก็คือราคาของหุ้นแต่ละตัวใน
ตลาดที่ขึ้นลง บางตัวอาจขึ้น บางตัวอาจลง หรือบางตัวไม่เปลี่ยนแปลง
- ฉันต้องทำอย่างไงกับข้อมูลนี้
ตอบ : กลยุทธ์ คือ ในตลาดขาขึ้น ให้คุณมองหากลุ่มอุตสาหกรรมที่มีอัตราการขึ้นสูงกว่าหรือเทียบเท่า
ตลาด จากนั้นก็ให้มองหาหุ้นตัวที่ดีที่สุดในอุตสาหกรรมนั้น แต่ถ้าราคาหุ้นตัวที่ดีที่สุดขึ้นมาจนใกล้ราคาที่
เหมาะสมแล้ว คุณก็อาจจะเลือกตัวทีรองลงไป แต่ให้หลีกเลี่ยงที่จะเลือกหุ้นที่แย่ที่สุดในกลุ่ม เพราะมัน
อาจไม่เปลี่ยนแปลงเลยก็ได้
ที่มา : สยามอินโฟบิส (www.siaminfobiz.com) โดย Chaiyanun

No comments: