เป็น Worm ชนิดหนึ่ง ที่สร้างชื่อเลียนแบบไฟล์ Svchost.exe ของระบบปฏิบัติการ Window ซึ่งไฟล์ svchost.exe เป็นไฟล์ generic host process ใช้รัน กับ DLL ไฟล์เพื่อสร้าง Service ขึ้นมาเช่น EventSystem,Netman,NtmsSvc,RasMan โดยที่สามารถรันได้หลายๆ instance พร้อมกัน
อีกชื่อหนึ่งที่ใช้คือ W32.CodeBlue ซึ่งส่งผลกระทบกับระบบปฎิบัติการ Windows ที่ใช้งานโปรแกรมประยุกต์ IIS
ขั้นตอนการทำงานของ W32.CodeBlue
1.เรียกใช้ไฟล์ Httpext.dll ในเครื่องผู้ถูกบุกรุก ซึ่งอยู่ในโฟลเดอร์ C:Inetpub/wwwroot/scripts
2. ตัวหนอนจะเรียกใช้งานผ่านคำสั่ง HTTP GET
3. หลังจากนั้นตัวหนอนจะสร้างไฟล์ C:Svchost.exe และเรียกใช้งาน
4. C:Svchost.exe จะทำการสร้างและแก้ไขส่วนต่างๆ ของระบบ
W32.CodeBlue จะสร้างและแก้ไข
1.ทำการสร้างไฟล์ C:Svchost.exe และแก้ไข registry ดังนี้
HKEY_LOCAL_MACHINESoftwareMicrosoft WindowsCurrentVersionRun
ซึ่งจะอนุญาตให้เรียกใช้งานตัวหนอนหลังจาก restart เครื่องทุกครั้ง
2. สร้างไฟล์ชั่วคราวที่ C:d.vbs ซึ่งไฟล์นี้เป็นไฟล์ที่ถูกเรียกจากโปรแกรม C:WINNTsystem32Wscript.exe
3.ไฟล์ d.vbs จะทำการลบไฟล์.ida, .idq, และ .printer IIS service เพื่อไม่ให้มีการติดเชื้อจาก CodeRed
4.ในช่วงเวลา 10 นาฬิกาและ 11 นาฬิกา ตัวหนอนจะทำการส่ง mail ที่มีข้อมูลขนาดใหญ่ไปยังเว็บไซต์บริษัทในเมืองจีน
วิธีตรวจสอบ
ในDrive C หรือ D จะมีFolder ที่ชื่อ d และใน Folder ที่ชื่อ d นั้นจะมีFolder ต่างๆเช่น c , cpu ,n ,w และอื่นๆ
- ไฟล์ Svchost.exe ของระบบจะอยู่ใน C:WINDOWSsystem32 เท่านั้น ไฟล์ที่เป็นไวรัส ส่วนใหญจะอยู่ใน C:Svchost.exe หรือC:WINDOWSSvchost.exe
วิธีแก้ไข
1.ไปที่ Start Menu เลือก Run พิมพ์ regedit คลิก OK ไปที่
HKEY_LOCAL_MACHINESoftwareMicrosoft WindowsCurrentVersionRun
2. ฝั่งขวาของข้อความจะแสดงค่า C:svchost.exe ให้
ลบข้อความทางฝั่งขวามือ และ ออกจากโปรแกรม
3.ค้นหาและลบไฟล์ C:svchost.exe และ C:d.vbs
Tuesday, September 15, 2009
Svchost.exe
วิธีกำจัดไวรัส คลิป VDO.EXE กับอาการ และวิธีแก้
เป็นไวรัสที่ไม่ได้สร้างความเสียหายร้ายแรงแก่ระบบเท ่าใดแต่สร้างความรำคาญให้แก่ผู้ใช้ที่ติดไวรัสชนิดนี ้มา โดยไวรัสชนิดนี้จะมีรูปร่างเหมือนFolderที่อยู่ในWin dows ทั่วๆไป แต่จะมีนามสกุลเป็น.exeทำให้เมื่อคลิกมัน ก็จะทำการฝังตัวไว้ใน C:WINDOWSsystem32 โดยจะทำการรันตัวมันเองขึ้นมาเรื่อยๆและสร้างไฟล์ คลิปVDO.exe ขึ้นมาใหม่เรื่อยๆ แม้ว่าจะทำการลบไฟล์ คลิปVDO.exe แล้วก็ตาม
วิธีแก้ไขไวรัส คลิปVDO.exe
1.เข้า windows task manager โดยกด Ctrl+Alt+Del ไปที่แทบ processes หาไฟล์ที่ชื่อ soundmsg.exe จากนั้นก็จัดการ end progress โดยการคลิ้กขวาเลือก end process หรือ กด delete แล้วตอบ yesไป
2. ลบไฟล์ คลิปVDO.exe
3. ไปที่ C:windowssystem32 แล้วหาไฟล์ soundmsg.exe หรือsearch หาไฟล์ soundmsg.exe
4.ไปที่Start menu->Run พิมพ์เข้า RegEdit เลือกที่HK_Local_MachineSoftwareMicrosoftWindowsCu rrentVersionRun ลบค่า Registry ที่ชื่อVirus test
5.ถ้าไวรัสติดที่Handy drive ให้เข้าSave Mode ของWindows แล้วเข้าไปลบไฟล์คลิปVDO.exe
วิธีกำจัดไวรัส Brontokกับอาการ และวิธีแก้
ลักษณะอาการ
- Menu Folder Option จะหายไป
- จะเกิดไฟล์ .exe ชื่อเหมือน Folder ในทุก Folder ที่เปิดเข้าไปดู
-มีหน้าเวปขึ้นมาเขียนว่า Brontok
- ไม่สามารถเรียกใช้ Registry Editor และFolder Option ได้
วิธีแก้ไข
1. หากมีคอมพิวเตอร์หลายเครื่อง มีการแชร์ไดร์ฟ หรือแลนกันไว้ให้จัดการยกเลิกการแชร์ ตัดการติดต่อกันเสียก่อน
2. เข้า Safe Mode ( กด f8 รัวๆตอนรีบู๊ดเครื่อง)เลือกเข้าในฐานะของ Administrator
3. ไปที่ Run พิมพ์ msconfig กด OK เลือก Start upยกเลิกเครื่องหมายหน้ารายการเหล่านี้ออกไป norBtok , smss
4. Restart เครื่องใหม่
5. โหลด File UnHookExec.inf จาก
http://securityresponse.symantec.com...UnHookExec.inf
6. เมื่อโหลดเสร็จให้ คลิกขวาที่ไฟล์ แล้วเลือก install
7. ไปที่ Run พิมพ์ regedit ไปที่ HKEY_CURRENT_USERSoftwareMicrosoftWindowsCurrentVe rsionPoliciesExplorer ลบค่า "NoFolderOptions" = "1
8. ไปที่ %UserProfile%Local SettingsApplication Data ลบ File csrss.exe , inetinfo.exe , lsass.exe , services.exe , smss.exe , winlogon.exe ออกให้หมด
9. ไปที่ %UserProfile%Start MenuProgramsStartup
ลบFile Empty.pif
10.ไปที่ %UserProfile%Templates ลบFile A.kotnorB.com
11.ไปที่ %Windir%inf ลบfile norBtok.exe
12. ไปที่%System% ลบfile 3D Animation.scr
สิ่งที่ควรปฏิบัติเมื่อต้องนอนดึก
ใครที่ดูบอล ทำการบ้าน หรือทำงานติดพัน แล้วต้องนอนดึกๆ อาจจะทำให้เสียสุขภาพได้ แต่ถ้าเลี่ยงไม่ได้จริงๆควรปฎิบัติตามนี้......
การพักผ่อนควรเข้านอนเวลา 3 ทุ่ม เนื่องจากร่างกายต้องการเวลาในการซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอขับของเสียตามอวัยวะต่าง ๆ ย่อยอาหารให้หมด และถ้ากินมื้อหนักในตอนกลางคืน แถมนอนดึกอีก รับรองว่าอ้วนแน่นอน เพราะไขมันเผาผลาญไม่หมดเลยทำให้เกิดการสะสมของไขมัน
แต่ถ้านอนดึกเลี่ยงไม่ได้ เพราะต้องทำงาน ทำการบ้าน ดูบอล (ช่วงนี้เลยอ่ะ) หรือติดงานอะไรก็ตาม ควรปฏิบัติดังนี้
1. งดเนื้อสัตว์ เช่น เนื้อวัว เนื้อหมู ไก่ เพราะย่อยยากลำไส้ต้องทำงานหนัก
2. ถ้าหากอยากกินเนื้อสัตว์ ก็ควรช่วยลำไส้ด้วยการเคี้ยวให้ละเอียด ยิ่งเคี้ยวละเอียดมากเท่าไหร่ยิ่งดี จะได้แบ่งเบาภาระการทำงานของลำไส้
3. ดื่มน้ำขิง ผสม น้ำผึ้ง อุ่น ๆ หรือ น้ำอุ่นธรรมดา + น้ำผึ้ง หรือถ้าไม่มีอะไรเลย น้ำอุ่นธรรมดา สัก 1 แก้วก็ได้
4. เวลานอน ควรทำให้ช่วงท้องกับฝ่าเท้าอุ่น โดยการห่มผ้า
5. มื้อดึก ควรเป็นมื้อเบา ๆ อย่างเช่น ผัก ผลไม้ นม ไข่ เนื้อปลา จะดีกว่า
6. ควรหลีกเลี่ยงน้ำเย็น น้ำอัดลม เพราะจะเพิ่มภาระทำให้ระบบภายในร่างกาย ร่างกายต้องความร้อนเพราะช่วยในการย่อยอาหาร หากดื่มแต่น้ำเย็น โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังมื้ออาหาร จะทำให้ร่างกายต้องพยายามปรับอุณหภูมิ ให้อุ่นเหมาะสมก่อน แล้วจึงนำไปใช้
อย่าลืมหันมาดูแลสุขภาพกัน ด้วยการไม่นอนดึกมากจนเกินไป เพื่อสุขภาพที่ดี.
ด้วยรักจากใจ
วิธีกำจัดสิวอย่างถูกวิธี
สาเหตุสิว
หากการทำงานของฮอร์โมนผิดปกติจะส่งผลให้ต่อมไขมันผลิตน้ำมันออกมามากเกินไป และเร่งการหลุดลอกของเซลล์ผิวบริเวณผิวชั้นบน
และในรูขุมขนซึ่งสิ่งตกค้างเหล่านี้จะขัดขวางทางเดินของต่อมไขมัน และอุดตันรูขุมขนด้วย ซึ่งสภาพแบบนี้ช่วยให้แบคทีเรียชนิดโปรฟิโอแบคทีเรีย แอ็คเน่ส์ที่แอบอยู่ในต่อมไขมันเจริญเติบโต และก่อให้เกิดตุ่มอักเสบระคายเคือง หรือสิวนั่นเอง
และอีกเหตุผลที่ไม่น่าเป็นไปได้ แต่ก็ทำให้เกิดสิวได้ก็คือ การระคายเคืองและการแพ้เครื่องสำอาง หรือยาและอาหารบางชนิด (แต่ก็ยังไม่มีงานวิจัยที่ยืนยันว่า อาหารใดก่อให้เกิดสิว)
ทำไมหัวขาว ทำไมหัวดำ
น้ำมันส่วนเกิน และเซลล์ผิวเก่าที่มีมากผิดปกติจะรวมตัวกันเป็นสารสีขาวนิ่มๆ อุดรูขุมขนไว้ ถ้าส่วนบนของรูขุมขนถูกปิดด้วยผิว ก็จะเรียกว่า สิวหัวขาว (Whitehead/Milia)
ถ้าไม่มีอะไรขวางรูขุมขน ส่วนบนของสารขาวๆ ที่ก่อตัวจะถูกอากาศจนกลายเป็นสีดำ เรียกว่า สิวหัวดำ (Blackhead)
สิวหัวขาวและหัวดำจะกลายเป็นสิวอักเสบเมื่อแบคทีเรียเติบโตในส่วนที่อุดตัน การอักเสบและน้ำมันส่วนเกินจะทำให้กำแพงของต่อมไขมันรั่ว และน้ำมัน เซลล์ผิวเก่า แบคทีเรียจะกระจายตัวไปทั่วเนื้อเยื่อผิวโดยรอบ ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายจึงต้องเข้าไปต่อสู้ซ่อมแซมผิว จึงทำให้บวมเป็นตุ่มสิวอย่างที่เห็น
วิธีปราบสิว
ถ้ามัวแต่แก้ไขเฉพาะสิวที่เห็นภายนอกโดยไม่สนใจรักษาที่ต้นเหตุซึ่งอยู่ใต้ผิวหนัง การรักษาใดๆ ก็ไม่ได้ผล เช่นใช้ผลิตภัณฑ์ทำให้หัวสิวแห้งเพียงอย่างเดียว ซึ่งนอกจากสิวจะไม่ยุบและไม่สามารถดูดซับความมันบนหัวสิวแล้ว ยังระคายผิว และอาจก่อให้เกิดแผลเป็นอีกด้วย
ฉะนั้น วิธีปราบสิวที่ดีที่สุดคือ การขัดผิวเพื่อลดการสะสมตัวของเซลล์ผิวที่ตายทั้งบนผิวและในรูขุมขน การฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดสิว การดูดซับความมันและสร้างสมดุลให้กับฮอร์โมนของร่างกายเพื่อควบคุมการผลิตน้ำมัน
ล้างหน้า :
ควรใช้เคลนเซอร์ที่ละลายน้ำและไม่ผสมสารที่ทำให้ระคายผิว เช่น สบู่ สครับ เพื่อเลี่ยงการกระตุ้นต่อมไขมัน ลดการอักเสบของผิว และความแห้งกร้าน ส่วนเคลนเซอร์ที่ผสมสารขัดลอกเซลล์ผิว สารยับยั้งเชื้อแบคทีเรียหรือดูดซับน้ำมันส่วนเกินจะไม่ค่อยได้ผลเท่าไหร่ เนื่องจากก่อนที่สารเหล่านี้จะออกฤทธิ์คุณก็ล้างออกเสียแล้ว
ขจัดเซลล์ผิว :
เพราะสิวเกิดขึ้นภายในรูขุมขน และเกี่ยวข้องกับการผลิตน้ำมัน ดังนั้น ผลิตภัณฑ์ที่ผสมกรดซาลิไซลิกซึ่งละลายในไขมัน จึงสามารถเข้าขัดลอกเซลล์ผิวเก่าในรูขุมขนได้อย่างอ่อนโยน แนะนำให้ใช้ประเภทเจลหรือโลชั่นเนื้อเบาๆ ซึ่งไม่ผสมสารสร้างความหนืดหรือสารให้ความชุ่มชื่นอันจะอุดตันรูขุมขน ส่วนสครับหรือกรด AHA มักไม่ค่อยได้ผล เนื่องจากตัวช่วยขัดลอกเซลล์ผิวเฉพาะภายนอก ไม่สามารถลงลึกถึงรูขุมขนได้
ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย :
แอลกอฮอล์หรือซัลเฟอร์เป็นสารฆ่าเชื้อที่ดีแต่ทำให้ผิวแห้งและระคายจนทำให้เกิดสิวใหม่ คุณจึงควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่ผสมน้ำมีทีทรีหรือเบนซอยล์เพอร๊อกไซด์ ที่มีความเข้มข้นประมาณ 2.5% 5% หรือ 10% ส่วนการกินยาแอนตี้บอดี้สามารถฆ่าเชื้อแบคทีเรียซึ่งก่อสิวได้จริง แต่จะทำลายแบคทีเรียตัวที่เป็นประโยชน์แก่ร่างกายไปด้วย
เพิ่มการสร้างเซลล์ผิว :
คุณหมออาจใช้สารจำพวกเตรตินอยน์ ดิเฟอรีนและกรดอะเซลาอิก ซึ่งช่วยให้เจริญเติบโตได้ดี จนสามารถเปลี่ยนแปลงรูปร่างของรูขุมขน และช่วยให้การขับน้ำมันสะดวกราบรื่น
ที่พึ่งสุดท้าย :
ถ้าหากสิวยังคงอยู่ทนแม้คุณจะทดลองใช้ผลิตภัณฑ์ทุกรูปแบบแล้วก็ตาม คุณก็ควรปรึกษาแพทย์ผิวหนัง เพราะยังมียารับประทานอีกตัวหนึ่งซึ่งเป็นที่ยอมรับกันทั่วโลกแล้วว่าสามารถรักษาสิวได้ผลดีเยี่ยม นั่นก็คืออัคคูเทน ซึ่งเป็นวิตามินเอปริมาณสูง มักใช้ในกรณีที่เกิดสิวรุนแรงและยังช่วยทำให้ผิวเนียนกระชับสวยขึ้นด้วย
แต่ยาตัวนี้ควรเป็นทางเลือกสุดท้ายจริงๆ และต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด เนื่องจากยานี้มีผลข้างเคียงที่ค่อนข้างรุนแรง เช่น ก่อให้เกิดความผิดปกติในการตั้งครรภ์และปัญหาทางจิต
6 บทนำเล่นรักให้ระทวย
คนส่วนใหญ่มักจะไม่ใส่ใจว่าตนนั้นได้ทำอะไรบ้าง ขณะที่ตนนั้นยังทรงเสื้อผ้าอาภรณ์เต็มยศอยู่ ทั้ง ๆ ที่บทรักก่อนการล่อนจ้อนนั้น ช่างมีความสำคัญต่อการกระตุ้นอารมณ์ในเกมรัก อย่างมาก สาวๆ ปากแข็งหรือจะเป็นคุณหนุ่ม ๆ ปากบอกว่าไม่ .. ไม่ .. ไม่ แต่พอโดนบทเล้าโลมสุดวาบหวิวเข้าไป มีอันต้องระทวยแล้วยอมให้เปลื้องกายเตรียมพร้อมในวันเกิด แต่..ขณะยังมีเสื้อผ้าพันกายนี้ เราจะเล่นรักด้วยวิธีไหนดี
1. ลูบไล้ปลุกอารมณ์
ลองสังเกตดูเถิดค่ะ หลายครั้งสงครามรักระหว่างชายและหญิงเรา มีชนวนเหตุมาจากการลูบนู่นต้องนี่ จนกลายเป็นการหยอกเอินที่เลยเถิดไปถึงการก่ออารมณ์อยากได้ใคร่ดีขึ้นมา แม้จะมีเสื้อผ้าเป็นเกราะกำบังป้องกันการสัมผัสแบบเนื้อแนบเนื้อก็ตาม แต่ใช่ว่าแรงกระแทกและน้ำหนักจากการลูบไล้ไปตามเนื้อผ้าจะสร้างอารมณ์และ เร้าความรู้สึกไม่ได้ ยิ่งหากเป็นจุดอ่อนไหวและบอบบางอย่างตรงเนินหน้าอกของคุณผู้หญิง หรือเป้าลับของคุณผู้ชายด้วยแล้วอะไรก็ฉุดไม่อยู่
2. สูดกลิ่นกายของกันและกัน
เหตุที่ผู้หญิงส่วนใหญ่ต้องพรมน้ำหอมตรงต้นคอ ก็เพราะบริเวณซอกคอของเธอนั้นจะเป็นมุมที่คุณผู้ชายประกบสันจมูกของพวกเขา ได้อย่างลงล็อคพอดิบพอดี เมื่อนั้นกลิ่นน้ำหอมสุดจรุงจมูกก็จะระเหยโชยกลิ่นทิพย์ผ่านเข้ารูจมูกเข้า ไปทำปฏิกิริยากับสมองให้เกิดความรู้สึกว่าอยากเอาจมูกเข้าไปถูไถบริเวณต้น กำเนิดความหอมและสูดมันให้ชื่นจิต จนเป็นที่มาของการไซ้ซอกคอ
3. จี้อารมณ์ที่ต้นคอ
โดยเฉพาะคุณผู้หญิง อย่ามองข้ามความเสี่ยงของพื้นที่ต้นคอของตนเองเป็นอันขาด หากถ้าคุณผู้ชายสามารถเอาจมูกไปจ่อที่ลำคอของคุณได้แล้ว มันก็คล้ายกับการเอามีดมาจี้คอตัวประกันเพราะอย่างไรก็ไม่รอด ระทวยหมดแรงกันมาแล้วแทบทั้งสิ้น จนคุณไม่อยากให้เขาถอนจมูกออกจากต้นคอคุณเลยล่ะ นี่ถ้าไปเจอคนที่เชี่ยวๆ ด้วยแล้ว เขาจะชอนไชจมูกต่ำลงไปตามอวัยวะสุดหวงของคุณแบบไม่แตะต้องด้วยสองมือล่ำ ๆ ของเขา ซึ่งจะสร้างความรู้สึกร้อนรุ่มจนคุณต้องเอ่ยวอนเขาให้จับและจยุ้มมันทั้งใน ร่มผ้านั่นแหละ
4. สำรวจพื้นที่ของกันและกัน
แม้จะมีเสื้อผ้าไม่ว่าจะเป็นชั้นนอกหรือชั้นใน มาเป็นอุปสรรคต่อการเชยชมทางสายตา แต่กลับไม่เป็นปัญหากับการเข้าถึงของมือเลยสักนิด ขณะที่ปากและจมูกของคุณกำลังบันเทิงกับอวัยวะสุดเลิฟของฝ่ายตรงข้ามอยู่นั้น ก็ไม่ควรปล่อยให้มือของคุณต้องเดียวดาย จงหาเพื่อนเล่นคลายเหงาให้กับมัน ถ้าเป็นคุณผู้ชายมือของคุณคงสนุกแบบเต็มไม้เต็มมือกับซาลาเปายักษ์คู่โต หรือถ้าเลื่อนมือต่ำลงมาอีกสักนิดคุณก็จะพบดินแดนเบอร์มิวด้าสามเหลี่ยมพิศวง กระนั้นมือของคุณสาว ๆ ก็สามารถช่วยคุณผู้ชายขุนน้องชายให้โตไว ๆ ได้ แม้ยังนอนสงบอยู่ในกางเกง
5. ลื้มรสปาก
การจูบ เป็นวิธีแสดงความรักพื้นฐานสุดคลาสสิคที่ไม่จำกัดว่าจะต้องกระทำกันแค่ ปากต่อปาก แต่การจูบขณะที่คุณยังไม่อยู่ในเครื่องแบบของการทำรัก อาจจะทำให้ความสามารถในการเข้าถึงของปากและลิ้นนั้นลดลงเพราะมีเส้นใยกัน เปลือยมาเป็นฉากที่คอยกั้นพระเอกออกจากนางเอกสำหรับคุณผู้ชายเอง แม้ปากจะสามารถสัมผัสและรับรู้ได้ว่านั่นคือเนินอก แต่พัตราภรณ์ทั้งข้างนอกและข้างใน ก็ทำให้ความเร้าใจลดลงอย่างเห็นได้ชัด ดังนั้น ถ้าจะให้ได้อารมณ์แบบเต็มร้อยก็ควรบดปากและขยี้ลิ้นลงบริเวณที่เป็นเนื้อ หนังมังสาด้วยกัน อร่อยกว่ากันเยอะ
6. ขยี้เป้าคลึงอารมณ์
อาจจะด้วยเพราะยังไม่ถึงเวลาหรือยังไม่เหมาะด้วยสถานที่ก็ตาม คุณก็เลยใจไม่ถึงพอที่จะถอดผ้าเปลื้องกายเล่นหวิวท้าฟ้ากันไปเลย คู่รักหลายคู่ก็เลยปล่อยอารมณืผ่อนรักกันด้วย วิธีการคลอเคลียแบบเป้าเสียดเป้าส่วนนูนส่วนเว้าแทน ยิ่งไอ้ประเภทมีที่ว่างไม่นั่ง แต่จะต้องนั่งตักกัน ฝ่ายชายก็เลยถือโอกาสเอาน้องหนูของเขาเถลือกไถลสีบั้นท้ายของฝ่ายหญิง แม้จะเป็นสัมผัสที่เกิดจากผ้ากระทบผ้าก็ตาม แต่ส่วนที่ล้นเป้าออกมานั้นมันกลับสร้างความรู้สึกแบบประทับจิตเสียวสันหลัง เวลาแนบชิด
Sunday, September 13, 2009
นอนกรน แก้ไขได้ไม่ใช่เรื่องน่าอาย
นอนกรน เป็นภาวะผิดปกติอย่างหนึ่งของการนอนที่ไม่ควรละเลย เพราะผลกระทบจากการนอนกรนสร้างปัญหาต่อการดำเนินชีวิต และปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพมากมาย
นอนกรน......เกิดได้อย่างไร
อาการนอนกรนนี้ คนปกติสามารถเป็นได้ไหม ??
คำตอบทางการแพทย์ถือว่า การนอนกรนเป็นสิ่งผิดปกติ คนทั่วไปเข้าใจว่าคนมีอายุ อาจนอนกรนบ้างเวลาหลับสนิทและเป็นเรื่องธรรมดา อันนี้ไม่ถูกต้อง แท้ที่จริงแล้ว นอนกรนเป็นอาการที่ชี้บ่งว่าทางเดินหายใจของคนๆ นั้นแคบ เวลาลมหายใจผ่านบริเวณช่องคอตรงที่แคบนั้น จะเกิดการสั่นสะเทือนของเนื้อเยื่อ ทำให้เกิดเป็นเสียงกรน ยิ่งถ้ามีปัญหาแน่นจมูก ต้องอ้าปากเวลานอน จะยิ่งทำให้นอนกรนได้มากขึ้นไปอีก
การนอนกรนมีทั้งประเภทที่อันตราย และไม่เป็น อันตราย ซึ่งมีลักษณะดังนี้
1. ประเภทที่ไม่เป็นอันตราย คือ การกรนที่ทำให้เกิดเสียงรบกวน แต่ไม่ทำให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพ กลุ่มนี้มักมีการอุดกั้นทางเดินหายใจเพียงเล็กน้อย
2. ประเภทที่อันตราย เกิดจากการที่มีทางเดินหายใจแคบมากในเวลาหลับ ผู้ป่วยกลุ่มนี้ จะมีเสียงกรนที่ไม่สม่ำเสมอ โดยขณะที่ยังหลับไม่สนิทจะยังเป็นการกรน ที่สม่ำเสมอ แต่เมื่อหลับสนิทจะเกิดการอุดกั้นทางเดินหายใจ มีเสียงกรน ที่ไม่สม่ำเสมอ โดยจะมีช่วงที่กรนเสียงดัง และค่อยสลับกันเป็นช่วงๆ และจะ กรนดังขึ้นเรื่อยๆ และจะมีช่วงหยุดกรนไปชั่วระยะหนึ่ง ซึ่งเป็นในช่วง ที่เกิดการหยุดหายใจ
อันตรายจากการนอนกรนที่มีการหยุดหายใจขณะหลับ
1. ร่างกายอ่อนเพลีย รู้สึกนอนไม่พอ ทำให้เกิดอาการง่วงนอน
2. ไม่มีสมาธิในการทำงาน ความสามารถในการจดจำลดลง หงุดหงิด อารมณ์เสียง่ายกว่าปกติ
3. มีโอกาสเสี่ยงมากขึ้นที่จะเป็นโรคต่างๆ เช่น โรคความดันโลหิตสูง โรคของหลอดเลือดในสมอง โรคหัวใจขาดเลือด (อาจทำให้เสียชีวิตทันที เพราะเกิดภาวะหยุดหายใจในช่วงนอนหลับ ที่ชาวบ้านเรียกว่าไหลตาย)
4. หย่อนสมรรถภาพทางเพศ
การตรวจวินิจฉัยการนอนกรน
1. ตรวจร่างกายโดยแพทย์อย่างละเอียด
2. ตรวจพิเศษในท่านอน โดยกล้องส่องตรวจหลอดลมชนิดอ่อนตัวได้ บริเวณโพรงหลังจมูก ตำแหน่งเพดานอ่อนและโคนลิ้น
3. เอ็กซเรย์ เพื่อหาตำแหน่งที่ตีบแคบของทางเดินหายใจส่วนบน
4. ตรวจ Sleep Test (Polysomnography) เป็นการตรวจ การหายใจสัมพันธ์กับการทำงานของหัวใจและสมองขณะหลับ (ผู้ป่วย จะต้องนอนหลับอย่างน้อย 6-8 ชม. ขณะทำการตรวจ และต้องนอน รับการตรวจในโรงพยาบาล) โดยจะตรวจดูภาวะต่างๆ ดังนี้
- การตรวจดูการทำงานของหัวใจด้วยการตรวจคลื่นหัวใจ ความดันโลหิต ระดับออกซิเจนในหลอดเลือดแดง
- การตรวจคลื่นสมองหาระดับลึกของการหลับ เพื่อดูความผิดปกติ ขณะที่มีการหยุดหายใจ และประสิทธิภาพการนอน
- การตรวจนับจำนวนครั้งของการหายใจ ความถี่และระยะเวลาที่เกิด ภาวะหยุดหายใจ
- การตรวจเสียงกรน ว่ากรนดังค่อยแค่ไหน ตลอดเวลาหรือไม่ กรนขณะนอนท่าไหน
การรักษาการนอนกรน
1. การควบคุมน้ำหนักไม่ให้เกินเกณฑ์ และออกกำลังกายเพื่อให้ ร่างกายและกล้ามเนื้อแข็งแรง
2. หลีกเลี่ยงการนอนหงายโดยพยายามนอนในท่าตะแคงข้าง และนอน ศีรษะสูงเล็กน้อย
3. หลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ หรือยานอนหลับ หรือยา กล่อมประสาทก่อนนอน
4. กรณีที่เป็นการนอนกรนชนิดอันตรายที่มีการหยุดหายใจร่วมด้วย รักษาโดย
- เครื่องช่วยหายใจ CPAP เครื่องครอบจมูกขณะหลับ เพื่อทำให้ หายใจสะดวกขึ้น
- Radiofrequency จี้กระตุ้นให้เพดานอ่อนหดตัวลง โคนลิ้นหด ตัวลง
- การผ่าตัด เอาส่วนที่ยืดยานออก
การโม CD-ROM ให้อ่าน DVD ได้
การโม CD-ROM ให้อ่าน DVD ได้
การที่จะโมดิฟายได้มีอยู่ 2 แบบ คือ เครื่องที่เล่นจะต้องเป็นสเป็ค
24x to 40x
40x or higher
ถ้าต่ำกว่า 24x ไม่สามารถโมได้
การโมดิฟายหัวเลเซอร์
หัวอ่านแทรคของ ซีดีคือ 1.6 micronsและหัวอ่านแทรคของ ดีวีดีคือ 0.8 microns.ความยาวของแทรคของซีดีคคือ 0.843mmและความยาวของแทรคของดีวีดีคือ 0.293mm.และนั้นก็ทำให้รู้ว่าทำไมดีวีดีถึงสามารถเก็บข้อมูลได้มากกว่าซีดี
หลักวำคัญในการทำครั้งนี้ก็คือ เราจะต้องปรับแต่งหัวเลเซอร์ให้สามารถอ่านและใช้ความยาวให้สั้นลงคล้ายดีวีดี. เปิดตัวซีดีรอมไดฟ์ของคุณออกมา คุณจะเห็นเลนซ์หัวเลเซอร์ . ข้างๆหัวเลเซอร์จะมีน๊อตอยู่ ให้คุณปรับแต่งจากตรงนั้น และนี่คือหัวใจสำคัญของการทำครั้งนี้
การปรับแต่งด้วยการหมุนน๊อตครั้งนี้คือการปรับค่าของการอ่านแผ่นดิสต์ของหัวอ่านเลเซอร์.หลังจากที่ทำตามข้างบนที่กล่าวมาแล้ว หัวอ่านเลเซอร์น่าจะอยู่ประมาณน้อยกว่า 0.293mm,ซึ่งสามารถที่จะอ่านแผ่น ดีวีดีได้แล้ว. หลังจากที่คุณได้ทำการหมุนน๊อตไปได้ 2-3 ครั้งแล้ว อาจจะปรากฏข้อความ error บางอย่างเกิดขึ้น ให้คุณจดเก็บเอาไว้ใน case ที่คุณอาจจะลืมว่าได้หมุนไปกี่รอบ
24x to 40x
ดีวีดีรอม สามารถที่จะอ่นแผ่นดีวีดี ได้ที่สปีด 4x แต่ถ้าเราโมดิฟาย 32x ซีดีรอม จะทำให้สปีดสูงขึ้นและร้อนขึ้น ประสิทธิภาพการใช้งานก็สั้นลงด้วย
ดังนั้นคุณจะต้องรู้ว่าควรจะลดสปีดลงในระดับไหน
คนส่วนมากคิดว่าสายไฟจาก power supplieที่นำมาจ่ายไฟตรงหัวจ่ายไฟของตัวซีดีรอม เส้นสีแดง จ่ายไฟ 5vและสีเหลือง 12v. ให้คุณตัด เส้นสีเหลืองออกหรือพันเทปปิดไว้ไม่ใช้.ดังนั้นตอนนี้ไฟที่จะจ่ายไปยังซีดีรอมก็คือ 5v .ดังนั้นสปีดของซีดีรอมที่เราจะได้ก็คือ 32 * 5/17 = 9.41x ซึ่งไม่เกินตามที่เรากำหนดไว้
40x or higher CD ROMs
ปัจจุบัน 40x ซีดีรอมได้ออกมาสู่ท้องตลาดแล้วแล้วส่วนมากโรงงานพวกนี้ก็จะผลิต ดีวีดีรอมไปด้วย ดังนั้น พวกเขาจึงลดค่าใช้จ่ายโดยการใช้แกนกลางของซีดีรอมคล้ายกับดีวีดีรอม แต่กำหนดไม่ให้ใช้ดีวีดีได้ ดังนั้นเราจึงต้องมากำหนดให้ใช้ดีวีดีได้
เปิดตัวซีดีออก จำเห็นแผงวงจรด้านหลัง มองหาจั้มเปอร์ ที่เขียนว่า dvd jump หาตัวจั้มมาใส่หรือใช้สายไฟเส้นเล็กๆมาจั้มก็ได้
นั้นแหล๊ะตอนนี้ ดีวีดี ฟังชั้น ก็ถูกปลดล๊อคแล้ว แต่คุณยังต้องทำการปรับค่าสปีดอยู่ ให้ใช้วิธีข้างบนที่ได้กล่าวมาแล้ว ทำเหมือนเดิม
ข้อควรสังเกตุ
ไดฟ์อาจจะไม่ถูกค้นพบเวลาสตาร์ทเครื่อง นั้นหมายความว่าคุณไม่สามารถใช้ในระบบ dos ได้ แต่เมื่อคุณเข้าวินโดว์ได้แล้ว ไดฟ์นี้ก็ทำงานตามปกติ
ไดฟ์ยังสามารถอ่านโค๊ด region ได้ไม่มีปัญหา
แต่ไดฟ์ไม่สามารถอ่าน แผ่นDVD9 ได้ นั้นหมายความว่าคุณแค่สามารถดูดีวีดีแบบปกติธรรมดาได้เท่านั้น
ต้องลองครับ ผมไปเจอมาจึงนำมาฝาก
Thursday, September 10, 2009
สูตรหน้าใส
สูตรหน้าใส
1. สูตรเพิ่มความสดชื่นเปล่งปลั่งให้กับผิวหน้า
ให้ท่านล้างหน้าด้วยน้ำอุ่นจนสะอาด จากนั้นนำแอปเปิ้ลที่ยังไม่ปลอกเปลือกครึ่งผลมาปั่นพอละเอียด แล้วนำมาพอกหน้าเว้นเปลือกตา ทิ้งไว้ประมาณ 25 นาที แล้วล้างออก
2. สูตรลดริ้วรอย ทำให้หน้านวลใส
ให้นำแอปเปิ้ลครึ่งผลมาปั่นพอละเอียด จากนั้นก็มะนาวมาคั้นเอาแต่น้ำประมาณ 1 ช้อนชาใส่ลงไป แล้วผสมให้เข้ากัน จากนั้นนำมาพอกให้ทั่วหน้า เว้นบริเวณรอบดวงตาไว้ ทิ้งไว้ 10 นาที แล้วล้างออก
3. สูตรหน้าเด้ง ไม่หยาบกร้าน
นำโยเกิร์ต 3 ช้อนโต๊ะมาผสมกับมะเขือเทศลูกเล็ก ๆ ประมาณ 3 ลูก ปั่นโยเกิร์ตกับมะเขือเทศพอละเอียด แล้วนำมาพอกหน้าให้ทั่ว โดยเว้นรอบดวงตา ทิ้งไว้ 15 นาที แล้วล้างออก
4. สูตรขัดหน้าขาว และลดริ้วรอยหมองคล้ำ
นำโยเกิร์ต 1 ถ้วย แล้วผสมกับเกลือป่นละเอียด 1 ช้อนโต๊ะผสมให้เข้ากัน นำมาพอกให้ทั่วใบหน้า แล้วขัด ๆ ถู ๆ ให้ทั่ว ขัด 5 นาที ทิ้งไว้อีก 5 นาที แล้วล้างออก ทำเดือนละครั้งกำลังดี คล้ายๆ กับการสครับหน้านั้นเอง
สูตรลับหน้าขาว
สูตรลับหน้าขาว
ส่วนผสมมีดังนี้
1.มะขามเปียก
2.นมสด
3.น้ำผึ้ง
วิธีทำ - ผสมน้ำมะขามเปียก นมสด และน้ำผึ้ง (ใส่นมสด และน้ำผึ้งแค่ครึ่งหนึ่งของน้ำมะขามเปียก) จากนั้นตั้งไฟอ่อนๆ คนให้เข้ากัน ทิ้งไว้ให้เย็น เป็นอันว่าเสร็จแล้วค่ะ
วิธีเก็บรักษา - ใส่ในภาชนะที่มีฝาปิดแล้วแช่ในตู้เย็น สามารถ เก็บไว้ได้นานเท่าที่ต้องการเลยค่ะ
วิธีใช้ - ล้างหน้าด้วยน้ำเปล่า เช็ดให้แห้ง แล้วทาครีมมะขามเปียกให้ทั่วใบหน้าและลำคอ ทิ้งไว้ประมาณ 20-30 นาที หรือนานเท่าใดก็ได้ ตามใจผู้ใช้ แล้วล้างออกตามปกติ
ข้อควรระวัง - หลีกเลี่ยงการทาบริเวณดวงตา เพราะอาจจะทำให้ระคายเคืองได้
ข้อพึงกระทำ - ถ้าต้องการให้ได้ประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ควรทาครีมมะขามเปียกในขณะที่ครีมเย็น หรือเพื่งจะเอาครีมออกจากตู้เย็น เพราะความเย็นจะทำให้รูขุมขนเล็กลง ผิวหน้าก็จะเรียบขึ้นค่ะ
สูตรผิวขาวใส
ส่วนผสม 1.ไข่ไก่2-3ใบ(เอาแต่ไข่แดงนะ) 2.มะนาว2ช้อนชา
วิธีทำ นำไข่แดงมาผสมกับน้ำมะนาวตีให้เข้ากันทาทิ้งไว้5-10น.
ทาครีมบำรุงเพื่อให้ผิวหน้าชุ่มชื่นด้วยจ้า
ทอาทิตย์ละ2ครั้ง
************************
สูตรที่3.
ส่วนผสม 1.หัวไซเท้า
วิธีทำ ปอกเปลือกหัวไซเท้าแล้วล้างออก ฝานบางเฉียบแล้ววางลงบนใบหน้า
ทิ้งไว้ 15น.ล้างออกด้วยน้ำสะอาดทำอาทิตย์ละ 2ครั้ง
**************************
สูตรที่4.
ส่วนผสม 1.แอปเปิ้ลแดง(ไม่ปอกเปลือก) 2.นมสด
วิธีทำ นำส่วนผสมทั้ง2อย่างมารวมกันดูปริมาณที่สมดุลกัน
แล้วนำมาทาหน้าทิ้งไว้ 2. น.แล้วล้างออก
ทำอ่ทิตย์ละ2-3ครั้ง
****************************
สูตรที่5.
ส่วนผสม 1.มะเชือเทศ 2.แตงกวา
วิธีทำ นำมะเขือเทศมาบดให้ละเอียดแล้วมาทาบนใบหน้า เอาแตงกวามาแปะตาไว้จะได้ไม่เป็นหมีแพนด้า
สูตรแก้ปัญหาหน้ามัน
วิธีนี้แสนจะง่ายและปราศจากผลข้างเคียง ลองมาทำกันดูนะคะ
1. นำสตรอเบอร์รี่ 2 ลูกล้างให้สะอาด แตงกวา 1 ลูกล้างให้สะอาด
2. นำมาใส่เครื่องปั่นผสมกันให้ละเอียด
3. แล้วนำมาพอกหน้า เว้นบริเวณรอบดวงตาและรอบปาก ประมาณ
20 นาที
4. เสร็จแล้วก็ล้างออกด้วยน้ำอุ่นๆ
ลดน้ำหนัก 9 กิโลกรัม ภายใน 1 สัปดาห์
สูตรพระราชทานของสมเด็จพระเทพ
ลดน้ำหนัก 9 กิโลกรัม ภายใน 1 สัปดาห์
ก่อนอาหารต้องดื่มน้ำอย่างน้อย 2 แก้ว งดน้ำตาล น้ำมันหมู แอลกอฮอล ของทอดทุกชนิด
วันที 1
เช้า น้ำผลไม้คั้น หรือโยเกิร์ต 1 ถ้วย
กลางวัน ไข่ต้ม 2 ฟอง
เย็น สลัดผัก
วันที 2
เช้า น้ำผลไม้คั้น หรือโยเกิร์ต 1 ถ้วย
กลางวัน ไข่ต้ม 2 ฟอง
เย็น สลัดผัก
วันที 3
เช้า กาแฟไม่ใส่น้ำตาล หรือโยเกิร์ต 1 ถ้วย
กลางวัน เกาเหลาลูกชั้น 1 ชาม(หมู, เนื้อ)
เย็น สลัดผัก
วันที 4
เช้า น้ำผลไม้คั้น หรือกาแฟดำและขนมปัง 1 แผ่น
กลางวัน สลัดผัก และไก่ยาง 1 ชิ้น
เย็น โยเกิร์ต 1 ถ้วย
วันที 5
เช้า น้ำผลไม้คั้น หรือกาแฟไม่ใส่น้ำตาล 1
กลางวัน ส้มตำ และไก่ย่าง 1 ชิ้น
เย็น สลัดผัก
วันที 6
เช้า น้ำผลไม้คั้น หรือกาแฟไม่ใส่น้ำตาล 1 ถ้วย
กลางวัน ปลานึ่ง หรือ ปลาเผา ไม่จำกัด
เย็น สลัดผัก
วันที 7
เช้า ข้าว 1 ทัพพี และเนื้อ 1 ชิ้น หรือไข่ต้ม 1ฟอง
กลางวัน เกาเหลาลูกชั้น 1 ชาม (หมู, เนื้อ)
เย็น สับปะรด 1 ชิ้น
------------------------------------------------------------------------------------------------- โครงการควบคุมอาหาร 13 วัน
จุดประสงค์ โครงการนี้ เพื่อปรับปรุงการเผาผลาญอาหารของร่างกายหลังจากครบ 13 วันแลัวจะรับประทานอาหารได้ตามปกติ น้ำหนักจะไม่ขึ้นเป็นเวลา 2 ปี
ข้อสำคัญ
หากทำตามตารางนี้ อย่างเคร่งครัดจะลดน้ำหนักได้ ประมาณ 7 20 กิโลกรัม ปริมาณอาหารในช่วงควบคุมจะไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย แต่ท่านไม่ต้องกังวลว่าจะทำให้เสียสุขภาพ เพราะส่วนที่ขาดภายในร่างกายจะทำปฏิกิริยาการเผาผลาญไขมันที่สะสมไว้ตามร่างกายมาใช้เป็นพลังงานทดแทน
ระยะเวลา 13 วันนี้ ห้ามดื่มเบียร์ ไวน์ สุรา ขนมหวาน หมากฝรั่ง ลูกอม หรืออาหารอื่นๆแม้เพียงเล็กน้อยการควบคุมอาหารครั้งนี้จะไม่บังเกิดผลใดๆเลย และถ้าจะเริ่มต้นใหม่ต้องทำกระทำหลังจาก 3เดือนไปแล้ว
ขอแสดงความยินดีกับทุกท่านที่สามารถควบคุมได้ครบ 13 วัน ท่านจะเป็นผู้ที่มีรูปร่างสมส่วนตามที่ต้องการ และถ้าต้องการควบคุมอีกต้องหลังจาก 1 ปี ไปแล้ว แต่ถ้าเลย 2 ปีไปแล้วจะดีที่สุด
ข้อแนะนำ หากคุณรู้สึกหิวนอกเหนือจากเวลาที่กำหนดให้ดื่มน้ำมากๆห้ามดื่มหรือทานอาหารอย่างอื่นแทน
หมายเหตุ
- ผักต้มถ้าใช้ผักขมไทยได้จะดี (ใช้ผักกาดขาวหรือกวางตุ้งแทนได้ )
- มะเขือเทศผลใหญ่ 1 ผล ถ้าผลเล็กใช้ 3ผล
- เนื้อไก่อบ ใช้เนื้อสันหรือเนื้อหน้าอกไม่ติดหนัง 2 ขีด
- ผักสลัดใช้ผักกาดหอม 1 ต้นเล็ก หอมใหญ่ 1 หัว แตงกวา 2 ลูกหั่นรวมได้ผัก 1 จาน
- น้ำสลัดใส ใช้ 1 ถ้วย ( 3-4 ช้อนโต๊ะ หรือใช้น้ำสลัดน้ำข้นแทนก็ได้ )
- น้ำมะนาวใช้มะนาวสด 1-2 ผล ชงน้ำร้อนใส่เกลือ ใส่น้ำแข็งดื่มได้
- โยเกิร์ตถ้ามีรสจืดจะดีมาก ถ้าหาไม่ได้เลือกตามรสที่ชอบ
- ผลไม้สด 1 ผล เช่น แอปเปิ้ล ชมพู่ มะม่วง ส้มเขียวหวาน กล้วย
- ใช้ปลาช่อนแทนปลากระพงก็ได้
- น้ำเปล่าดื่มได้ทั้งวัน วันละ 2 3 ลิตร
นอกเหนือจากรายการอาหารนี้ถ้าหิวให้ดื่มน้ำเปล่าแทนได้อย่างเดียว
เอาชนะตัวเอง ถือว่าเป็นเลิศ
( เอาชนะความหิว หิวแล้วไม่ตาย )
สูตร 13 วัน ลด 13 กิโลกรัม
วันที่ 1
อาหารเช้า - กาแฟดำ 1 ถ้วย (น้ำตาล 1ก้อน)
อาหารเที่ยง - ไข่ต้มแข็ง 2 ฟอง ผักกาดต้ม 3ขีด มะเขือเทศ 1ผล
อาหารเย็น - เนื้อไก่อบ 2 ขีด ผักสลัดน้ำใส น้ำมะนาว
วันที่ 2
อาหารเช้า - กาแฟดำ 1 ถ้วย (น้ำตาล 1ก้อน)
อาหารเที่ยง - เนื้อหมูอบ 2.5 ขีด โยโกิร์ต 1 ถ้วย
อาหารเย็น - เนื้อไก่อบ 2 ขีด ผักสลัดน้ำใส น้ำมะนาว ผลไม้สด 1 ผล
วันที่ 3
อาหารเช้า - กาแฟดำ 1 ถ้วย (น้ำตาล 1ก้อน) ขนมปังปิ้ง 1 แผ่น
อาหารเที่ยง - ไข่ต้มแข็ง 2 ฟอง เนื้อหมูอบ 1 ขีด ผักสลัดน้ำใส น้ำมะนาว
อาหารเย็น - คื่นไช่ต้มสุก 3 ขีด มะเขือเทศ 1ผล ผลไม้สด 1 ผล
วันที่ 4
อาหารเช้า - กาแฟดำ 1 ถ้วย (น้ำตาล 1ก้อน) ขนมปังปิ้ง 1 แผ่น
อาหารเที่ยง - น้ำส้มคั้น 1แก้ว โยโกิร์ต 1 ถ้วย
อาหารเย็น - ไข่ต้มแข็ง 1 ฟอง แครอทสด 1 หัว นมรสจืด 1 กล่อง
วันที่ 5
อาหารเช้า - แครอทสด 1 หัว ราดด้วยน้ำมะนาว ( ส้มตำ )
อาหารเที่ยง - เนื้อปลากะพงนึ่ง 2 ขีด
อาหารเย็น - เนื้อไก่อบ 2 ขีด ผักสลัดน้ำใส
วันที่ 6
อาหารเช้า - กาแฟดำ 1 ถ้วย (น้ำตาล 1ก้อน) ขนมปังปิ้ง 1 แผ่น
อาหารเที่ยง - ไข่ต้มแข็ง 2 ฟอง แครอทสด 1 หัว
อาหารเย็น - เนื้อไก่อบ 2 ขีด ผักสลัดน้ำใส น้ำมะนาว
วันที่ 7
อาหารเช้า - ชา 1 ถ้วย ไม่ใส่น้ำตาล ขนมปังปิ้ง 1 แผ่น
อาหารเที่ยง - น้ำเปล่าอย่างเดียว
อาหารเย็น - เนื้อหมูอบ 2 ขีด ผลไม้สด 1 ผล
วันที่ 8
อาหารเช้า - กาแฟดำ 1 ถ้วย (น้ำตาล 1ก้อน)
อาหารเที่ยง - ไข่ต้มแข็ง 2 ฟอง ผักกาดต้ม 3 ขีด มะเขือเทศ 1ผล
อาหารเย็น - เนื้อไก่อบ 2 ขีด ผักสลัดน้ำใส น้ำมะนาว
วันที่ 9
อาหารเช้า - กาแฟดำ 1 ถ้วย (น้ำตาล 1ก้อน)
อาหารเที่ยง - เนื้อหมูอบ 2 ขีด โยโกิร์ต 1 ถ้วย
อาหารเย็น - เนื้อไก่อบ 2 ขีด ผักสลัดน้ำใส น้ำมะนาว
วันที่ 10
อาหารเช้า - กาแฟดำ 1 ถ้วย ( ไม่ใส่น้ำตาล ) ขนมปังปิ้ง 1 แผ่น
อาหารเที่ยง - ไข่ต้มแข็ง 2 ฟอง เนื้อหมูอบ 1 ขีด ผักสลัดน้ำใส น้ำมะนาว
อาหารเย็น - คื่นไช่ต้มสุก 3 ขีด มะเขือเทศ 1ผล ผลไม้สด 1 ผล
วันที่ 11
อาหารเช้า - กาแฟดำ 1 ถ้วย (น้ำตาล 1ก้อน) ขนมปังปิ้ง 1 แผ่น
อาหารเที่ยง - น้ำส้มคั้น 1แก้ว โยโกิร์ต 1 ถ้วย
อาหารเย็น - ไข่ต้มแข็ง 1 ฟอง แครอทสด 1 หัว นมรสจืด 1 กล่อง
วันที่ 12
อาหารเช้า - แครอทสด 1 หัว ราดด้วยน้ำมะนาว
อาหารเที่ยง - เนื้อปลากะพงนึ่ง 2 ขีด ( นึ่งด้วยน้ำมะนาว ใส่คื่นไช่ 1 ต้น )
อาหารเย็น - เนื้อไก่อบ 2 ขีด ผักสลัดน้ำใส
วันที่ 13
อาหารเช้า - กาแฟดำ 1 ถ้วย (น้ำตาล 1ก้อน) ขนมปังปิ้ง 1 แผ่น
อาหารเที่ยง - ไข่ต้มแข็ง 2 ฟอง แครอทสด 1 หัว
อาหารเย็น - เนื้อไก่อบ 2 ขีด ผักสลัดน้ำใส น้ำมะนาว